ชาติเอเชียหลายประเทศ ยังคงคัดค้านการสักร่างกาย ยิ่งเป็นชาติมุสลิมอย่างอินโดนีเซีย รอยสักเรียกว่าเป็นตราบาปอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้น ธุรกิจลบรอยสักจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น
ธุรกิจของซานดิ วิโดโด ในอินโดนีเซีย มีลูกค้าจองคิวแน่นตลอด...บริการของเขาคือชำระล้างตราบาป ออกจากร่างกาย...นั่นคือการลบรอยสักนั่นเอง
แต่ก่อนวิโดโด เป็นศิลปินสักที่ประสบความสำเร็จบนเกาะบาหลี ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู แต่เมื่อเขาหันหน้าเข้าสู่ศาสนาอิสลาม รอยสักที่เคยเต็มเรือนร่างของวิโดโด กลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง...วิโดโด พยายามลบรอยสัก เพราะศาสนาอิสลามมองว่า รอยสักถือเป็นการทำร้ายตัวเอง และบิดเบือนการสร้างสรรค์ของพระเจ้า แต่เขาพบว่า ค่าใช้จ่ายการลบรอยสักนั้นสูงมาก
นายวิโดโด คิดค่าลบรอยสักในราคาย่อมเยา เพียง 400 บาท แต่ลูกค้าต้องท่องปากเปล่า คำสอน 50 ประโยค จากคัมภีร์กุรอ่านให้ได้ และต้องรู้สึกสำนึกผิดที่สักร่างกายด้วย
นี่เป็นเงื่อนไขที่เล็กน้อยมาก สำหรับลูกค้าอย่างริกิ ไอราวัณ เพราะมีอนาคตกับคู่ครองเป็นเดิมพัน
แม้ชาติตะวันตก จะเลิกเหยียดหยามคนที่มีรอยสักแล้ว แต่ชาติเอเชียบางประเทศ มองรอยสักว่า เชื่อมโยงกับอาชญากรรมและศีลธรรมที่หย่อนยาน โดยเฉพาะชาติมุสลิม นายวิโดโด จำได้ดีว่า สายตาผู้คนในมัสยิด มองรอยสักบนหน้าของเขานั้น มันเจ็บปวดเพียงไร
ทุกวันนี้ วิโดโด มีคิวลูกค้ายาวเหยียดนับพันคน พิสูจน์ว่า ชาวอินโดนีเซียจำนวนไม่น้อย อึดอัดกับการมีรอยสักในสังคมมุสลิม ลูกค้าจำนวนไม่น้อย เป็นแค่เยาวชน ที่ยอมรับว่า การสักเป็นความผิดพลาดใหญ่ในช่วงวัยรุ่น พอเป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงรู้สึกละอายใจ