ภรรยาทนายสมชายและครอบครัว ได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 14 ปีการหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร ขึ้นที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
วันนี้ ( 13 มี.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชายและครอบครัวได้นำรูปทนายสมชายและช่อดอกไม้ไปวางใต้ต้นไม้หน้าลานคณะนิติศาสตร์ พร้อมเผยว่า 12 มีนาคม 2561 เป็นวันครบรอบ 14 ปีที่ สมชาย นีละไพจิตร ถูกทำให้เป็นบุคคลสูญหายโดยเจ้าหน้าที่รัฐ สมชายไม่ต่างจากผู้สูญหายอีกมากมายที่ไม่มีใครทราบที่อยู่และชะตากรรม ไม่มีหลุมศพให้รำลึกถึง วันนี้ทางครอบครัวจึงขอวางช่อดอกไม้เพื่อรำลึกถึงสมชาย นีละไพจิตร ทนายความสิทธิมนุษยชนไว้ข้างถนน
เพื่อให้คนที่ผ่านไปมาที่อาจมีโอกาสได้พบเขา ได้โปรดฝากความรักและความระลึกถึงจากครอบครัวไปยังเขาด้วย
คุณอังคณา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนรู้สึกผิดหวังและเสียใจอย่างยิ่งเมื่อปีที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหนังสือถึงครอบครัวเพื่อแจ้งงดการสอบสวนคดีสมชาย หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีการฆาตกรรมสมชายเป็นคดีพิเศษ และใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนยาวนานถึง 12 ปี โดยหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แจ้งครอบครัวให้ทราบด้วยข้อความเพียงสั้นๆเพียงว่า “การสอบสวนคดีสมชายได้เสร็จสิ้นแล้ว “ โดย กรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นควรงดการสอบสวนเนื่องจากไม่ปรากฏตัวผู้กระทำผิด” พูดง่ายๆคือ เมื่อหาคนผิดไม่ได้ก็จบๆไป
"อาชญากรรมที่เกิดจากรัฐ รัฐต้องร่วมรับทุกข์กับเหยื่อ ไม่ใช่ปล่อยให้เหยื่อเผชิญความยากลำบากแต่เพียงลำพัง รัฐต้องไม่มืดบอดในการรับรู้ความทุกข์ยากของประชาชน การให้เงินชดใช้ความเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ได้หมายความว่ารัฐและหน่วยงานความมั่นคงจะหลุดพ้นจากหน้าที่ที่ต้องนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่สำคัญ การให้ค่าชดเชยด้วยเงินจำนวนมากก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าการละเมิดเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต" อังคณากล่าว
ด้านแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับคณะกรรมการนิติศาสตร์สากล (ICJ) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงทางการไทยเนื่องในโอกาสครบรอบ 14 ปีการอุ้มหายทนายสมชาย นีละไพจิตร เรียกร้องให้ไทยผ่านร่างป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ.... หรือ "ร่าง พ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหาย" พร้อมแนะนำให้แก้ไขเนื้อหาในร่างหลายจุดเพื่อให้ได้มาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล อย่างแท้จริง