อธิบดีกรมศิลปากรชี้แจงหลังชาวบ้านคัดค้านการประกาศเขตโบราณสถานเมืองพิมาย ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการไล่ชาวบ้านหรือผู้อยู่อาศัยออกไปจากพื้นที่ แต่เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ และปกป้องโบราณสถาน
วันที่ 28 ก.พ.61 นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แถลงกรณีชาวบ้านอำเภอพิมาย จ.นครราชสีมา รวมตัวคัดค้านการประกาศเขตโบราณสถานของกรมศิลปากร ว่า ทางกรมศิลปากรมีความจำเป็นต้องดำเนินการกำหนดขอบเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมายให้ชัดเจน เพื่อควบคุมดูแลโบราณสถานไม่ให้ถูกทำลายหรือทำให้เสื่อมค่า พร้อมยืนยันว่าตนไม่เคยพูดว่าจะยึดที่อยู่อาศัยของชาวบ้านไปถือครองแทน ที่ผ่านมาได้ดำเนินการตามกฎหมายและไม่ได้กระทบสิทธิ์ของชาวบ้านหรือให้ผู้อยู่อาศัยออกไปจากพื้นที่ แต่เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ และปกป้องโบราณสถาน
ด้าน น.ส.มาลีภรณ์ คุ้มเกษม ผู้อำนวยการกลุ่มนิติการ เปิดเผยต่อว่า ขอยืนยันไม่มีการไล่ประชาชนออกจากพื้นที่แต่อย่างใด ประชาชนยังใช้ชีวิจประจำวันได้ตามปกติ และประชาชนยังมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ที่มีโฉนดที่ดิน นส.3 เพียงแต่ต้องการควบคุมสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เหมาะสม เช่น อาคารสูง เพื่อปกป้องไม่ให้บดบังเมืองโบราณสถานพิมาย
ที่ผ่านมาทางกรมศิลปากรได้มีการจัดเวทีชี้แจงและรับฟังความคิดเห็น และได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของและผู้ครอบครองที่ดิน หากไม่เห็นด้วยก็ให้ใช้สิทธิร้องต่อศาลปกครองภายในกำหนด 30 วันนับตั้งแต่วันที่อธิบดีกรมศิลปากรแจ้งให้ทราบ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้อธิบดีกรมศิลปากรระงับการกำหนดเขตที่ดินให้เป็นโบราณสถานได้ โดยหากมิได้ร้องขอต่อศาลภายในระยะเวลา และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วกรมศิลปากรจะดำเนินการประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมาย จ.นครราชสีมา ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป