ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
สืบเนื่องจากเพจ “ระวังให้ดี พวกจอมปลอม ต่อต้านทหารปลอม ตำรวจปลอม” ได้มีการแชร์ภาพชายหนุ่มอ้างเป็นตำรวจยศ ร.ต.ต.พูนเกียรติ ศิริเพชร อายุ 29 ปี อ้างเป็น ตร.สายสืบอยู่จังหวัดสมุทรปราการ แท้จริงแล้วเป็นตำรวจอาสา หลอกสาวอายุ 29 ปี หญิงสาวเชียงคานแต่งงาน เป็นการหลอกลวง แอบอ้างเป็นตำรวจ โดยจะมีพิธีมงคลสมรสขึ้นในวันที่ 18 ก.พ.61 เวลา 09.09 น. เชิญการ์ดแต่งงานให้ญาติพี่น้อง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดเลย และเพื่อนทั้ง 2 ฝ่ายจำนวนมาก
โดยตำรวจกองปราบ วางแผนเตรียมจับกุมตำรวจเก๊คางานแต่งที่บ้านเจ้าสาว สถานที่จัดพิธีมงคลสมรสบ้านเจ้าสาว พบว่าเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้หลังเดียวหลังใหญ่ ภายในบ้านและนอกบ้านเงียบเหวาวังเวง ไม่มีการจัดงานแต่งแต่อย่างไร พบมีญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมงานต่างแปลกใจไม่มีการจัดงานขึ้นและยืนคุยกัน
สอบถาม พ่อของเจ้าสาว เปิดเผยว่า ก่อนวันนี้ตนเองพร้อมภรรยาและญาติพี่น้องได้เตรียมการจัดงานมงคลสมรสลูกสาวที่จะมีขึ้นในวันนี้ แต่ต้องล้มเลิกงานแต่งไป เพราะเมื่อวานได้รับโทรศัพท์จากกองปราบปราม ว่าที่ลูกเขยใช่ตำรวจจริงหรือไม่ และจะมีการแต่งงานในวันนี้ที่บ้านเจ้าสาว ตนเองเมื่อรับฟังหลังวางสายโทรศัพท์ ได้สอบถามว่าที่ลูกเขย เมื่อวานยังอยู่ที่บ้านได้รับคำตอบว่าเป็น จนท.ตร.ยศ ร.ต.ต. สายข่าวของ สภ.สมุทรปราการ จริง จึงได้ขอดูหลักฐานแต่ว่าที่ลูกเขยบอกว่าไม่ได้เอาเอกสารมา
จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์จาก ตำรวจในพื้นที่บอกว่าว่าที่ลูกเขยไม่ได้เป็นตำรวจตามที่กล่าวอ้าง น่าจะเป็นการหลอกลวงมากกว่า จึงได้สอบถามลูกสาว และมีการโพสต์ในโลกโซเซียลอย่างกว้างขว้าง จนลูกสาวมาบอกว่าของดการจัดงานแต่งนี้ออกไปก่อน จากนั้นทั้ง 2 คน ได้ขึ้นรถทัวร์ที่ อ.เชียงคาน บอกว่าจะไปกรุงเทพฯ ทำให้ตนเองและครอบครัวทำอะไรไม่ถูก การ์ดแต่งงานได้เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ไปหมดแล้ว จนเมื่อวานตอนเย็นจนถึงดึก มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาร่วมแสดงความยินดีนับร้อยคน ต่างตกใจที่ไม่มีการจัดงานแต่งงาน และเช้าวันนี้ก็ยังมีคนที่ยังไม่รู้เรื่องขับรถมาร่วมงานรดน้ำก็แปลกใจ ตนเองได้อธิบายจนเข้าใจจึงแยกย้ายกันกลับ
โดยเตรียมงานแต่งงานมีโต๊ะจีน 50 โต๊ะ 60,000 บาท เครื่องเสียง 8,000 บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก ได้แจ้งให้งดเลิกการจัดงานทั้งหมด ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อับอายมาก โดยเฉพาะภรรยาถึงกับร้องไห้ ไม่คิดว่า ว่าที่ลูกเขยจะมาโกหกกันอย่างนี้ ตอนนี้ได้คุยกับลูกสาวแล้ว ให้มีอะไรมาคุยกัน ถึงจะไม่ใช่ตำรวจจริงถ้ารักกันจริงพ่อก็ไม่ห้าม ไม่ได้หวังว่าลูกเขยต้องเป็นข้าราชการตำรวจ ถึงเป็นชาวบ้านธรรมดาก็รับได้ ขอร้องว่าที่ลูกเขยและลูกสาว กลับมาคุยกันหาทางออก ไม่ต้องหนี ทุกอย่างคุยกันได้ มาเคลียปัญหาที่เกิดขึ้น พ่อและแม่ไม่โกรธลูก
ร.ต.ท.ปานเทพ เปิดเผยว่า หลังได้รับการร้องเรียนได้เดินทางมาถึง อ.เชียงคาน มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าใช่ตำรวจหรือไม่ การแต่งกายเครื่องแบบตำรวจโดยไม่ได้รับอนุญาตโทษไม่หนัก ตาม มาตรา 146 ผู้ใดไม่มีสิทธิแต่งเครื่องแบบมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ , ไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบ หรือประดับเครื่องหมายของพนักงาน เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 146 หากเพื่อกระทำผิกความอาญา เช่นฉ้อโกงผู้หญิง ต้องรับโทษหนักขึ้น