ประเพณี "ขี่ม้าบินบวชนาค" เอกลักษณ์ของหมู่บ้าน

ประเพณีขี่ม้าบินบวชนาคเอกลักษณ์ของหมู่บ้านของ จ.พิจิตร แห่รอบหมู่บ้านก่อนบวช เป็นประเพณีที่มีมายาวนาน  จังหวัดพิจิตร ได้มีการประกอบพิธีอุปสมบท หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่าบวชนาคของนายธีรพนธ์ พินเขียว หรือนาคจ๊าบ อายุ 20 ปี โดยพิธีก็เหมือนกับการจัดพิธีอุปสมบททั่วไป แต่ที่แตกต่างคือการแห่นาค ที่มีการใช้ม้าบินเป็นพาหนะ ชื่อ "เจ้าสีเงิน" โดยม้าบินจะมีลักษณะรูปร่างเหมือนม้า แต่มีปีกเหมือนนก ซึ่งสร้างขึ้นโดยช่างพื้นบ้านในหมู่บ้าน เป็นพาหนะ ที่ใช้สำหรับแห่นาคของหมู่บ้านที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า "เจ้าสีเงิน" การแห่นาคจะมีนางรำที่แต่งชุดสวยงามรำนำหน้า คณะนักดนตรีที่บรรเลงเพลงด้วยความสนุกสนาน และมีขบวนแห่นาคที่นั่งบนเจ้าสีเงิน ม้าบินที่จะมีวัยรุ่นชายในหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนของนาคประมาณ 20 คน เป็นขาม้า ผลัดเปลี่ยนกันครั้งละ 10 คน แบกเจ้าสีเงิน ซึ่งมีนาคอยู่บันหลังม้า แห่ตามจังหวะดนตรี มีทั้งการเดินธรรมดาและกระโดดตามจังหวะ ด้วยความพร้อมเพียงของขาม้า การกระโดด โดยแต่ละครั้งปีกของม้า จะขยับขึ้นลงมองคล้ายม้าที่นาคขี่กำลังบินอยู่บนอากาศ สำหรับการแห่นาคด้วย "เจ้าสีเงิน" ซึ่งมีลักษณะเป็นม้าบินขบวนแห่จะแห่ไปตามเส้นทางภายในหมู่บ้าน ก่อนที่จะประกอบพิธีอุปสมบทตามประเพณี การแห่รอบหมู่บ้านมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการเชิญชวนประชาชนในหมู่บ้านให้ร่วมพิธีอุปสมบท เนื่องจากในอดีตการสื่อสารไม่สะดวก และไม่มีการแจกบัตรเชิญ แม้ปัจจุบันการสื่อสารจะสะดวกขึ้น มีการติดต่อกันหลายรูปแบบรวมถึงมีการแจกบัตรเชิญ แต่การแห่นาครอบหมู่บ้านก็ยังคงทำอยู่เพื่อเป็นการรักษาประเพณี และที่สำคัญการแห่นาค ยังเป็นการทดสอบจิตรใจของนาค โดยตลอด 2-3 ชั่วโมง จะมีจังหวะที่ต้องกระโดดนาคกระโดดเด้งไปตามจังหวะ จึงเป็นความลำบากที่ทดสอบจิตใจของนาคก่อนเข้าพิธี อีกนัยหนึ่งคือ เพื่อระลึกถึงการออกผนวชขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงสระสิริราชสมบัติออกผนวช โดยขี่ม้าที่ชื่อว่า "ม้ากัณฐกะ" เดินทางออกจากพระราชวังเพื่อผนวช และเพื่อแสวงหาโมกข์ธรรม หรือความหลุดพ้น จึงเป็นสิ่งที่ให้แง่คิดให้กับนาค ที่จะเข้าพิธีอุปสมบท ให้ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้การอุปสมบทเกิดกุศลกับนาค และครอบครัวตามความเชื่อทางประเพณีของชาวพุทธของหมู่บ้านมาบมะไฟ ที่มีมาอย่างยาวนาน