ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ปปป. และ ปปง. เข้ายึดทรัพย์บ้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในคดีทุจริตเงินทอนวัดเฟสแรก ที่หมู่บ้านบางกอกบูเลอวาร์ด ย่านถนนราชพฤกษ์ หลังตรวจสอบพบนำเงินดังกล่าวมาซื้อบ้าน ผลของปฏิบัติการนี้เป็นอย่างไรติดตามได้จากรายงาน
บ้านหรู บนที่ดินราว 1 ไร่ ย่านราชพฤกษ์ กรุงเทพมหานครหลังนี้ ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบการฟอกเงิน หรือ ปปง. ร่วมกับตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือ ปปป. เข้าตรวจสอบ พร้อมยึดอายัดทรัพย์ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตามคำสั่งของ ปปง. ที่ตรวจพบว่าบ้านหลังนี้ เป็น 1 ใน 33 รายการ ที่ได้มาจากการทุจริตงบอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด ของ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ระหว่าง ปี 2555-2559
บ้านหลังนี้ ปรากฏหญิง วัย 25 ปี เป็นผู้ครอบครอง และเธอซื้อด้วยเงินสด 49 ล้านบาท หญิงคนที่ว่า เธอคือลูกสาวของภรรยานายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. 1 ในผู้ต้องหาร่วมกันทุจริตงบอุดหนุนวัด แต่การตรวจค้นกลับปรากฏหลักฐานที่เชื่อได้ว่า เจ้าของที่แท้จริงก็คือนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์
นายนพรัตน์ ขณะดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ. ได้ร่วมกับพวกทุจริตงบอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดของพศ.ระหว่างปี 2555-2559 โดยเมื่อวัดได้รับงบประมาณจาก พศ. กลุ่มนายนพรัตน์ ก็จะไปขอคืนจากวัดราวร้อยละ 90 ของงบที่ได้ ก่อนจะให้โอนเข้าบัญชีบุคคลใกล้ชิด และนำเงินไปใช้ภายใต้ชื่อของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นการกระทำผิด ตามพ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน พศ.2542 ซึ่งการตรวจสอบ พบว่ามีทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริตงบอุดหนุนวัด 33 รายการ มูลค่า 71 ล้านบาท ประกอบไปด้วยบ้านพร้อมที่ดิน ที่ดินหลายแปลง รถยนต์ ที่ทั้งหมดถูกอายัดให้ตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินแล้ว และเชื่อว่ายังมีทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการตรวจอีกกว่า 100 ล้านบาท
ขณะที่การดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน ตำรวจ ปปป. ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา ทั้ง 9 คนให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครมาแสดงตัว และวันที่ 13 ตุลาคม จะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง และตามด้วยหมายจับ แม้ว่านายนพรัตน์จะอาศัยอยู่สหรัฐอเมริกา ตำรวจ ปปป.เตรียมประสานสำนักงานอัยการต่างประเทศขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ทันทีที่ ปปช. มีมติชี้มูลความผิด ข้าราชการ พศ.กับพวก ที่ร่วมกันทุจริตงบอุดหนุนวัด