ทำบุญปีใหม่ไทย ฤกษ์สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ วันสงกรานต์ 2567 บทสวด คำกล่าวบูชาเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัวตลอดปี
เปิดกิจกรรมวันสงกรานต์ 13 - 15 เมษายน 2567 ประเพณีเก่าแก่ของไทยที่เต็มไปด้วยความสดชื่น ชุ่มฉ่ำ ซึ่งจะเริ่มจากการไปทำบุญที่วัดตั้งแต่ช่วงเช้า ดังนี้
สวดขอขมาก่อนย้ายพระพุทธรูป - ตั้ง นะโม 3 จบ
ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทะวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต
คำแปลว่า - กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 ที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งในพระรัตนตรัย ด้วยความตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ต่อหน้าก็ดี ขอพระรัตนตรัยได้โปรดยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
จากนั้นให้ทำความสะอาดและย้ายพระพุทธรูปไปวางบนโต๊ะบูชาที่มีถาดรอง และเตรียมปรุงเครื่องหอมประกกอบดด้วยน้ำอบ ลอยดอกมะลิ ดอกแก้ว ดอกชมนาด ฯลฯพร้อมขันน้ำสำหรับการสรงน้ำพระ และท่องบทสวดสรงน้ำพระ ดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ
อิมินา สิญฺจะเนเนวะ โรโค โสโก อุปัททะโว นิพพันตุ สัพพะโส เอเต สุขี โหนตุ นิรันตะรัง ซึ่งแปลว่า "เดชะ ข้าสรงน้ำ พระชุ่มฉ่ำตลอดกาล ทุกข์โศกโรคภัยพาล อันตรธาน เป็นสุข เทอญ
จากนั้นอธิษฐานขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัวในวันสงกรานต์ ปีใหม่ไทย 2567 ตามด้วยการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ต่อไป
"พิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่" มีที่มาจากทางภาคเหนือของไทย มีเป็นคำพูดของชาวเหนือขณะรดน้ำขอขมา-ขอพรจากผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และยังมีความหมายเป็นการชำระล้างสิ่งอัปมงคลไปจากชีวิต รวมถึงเป็นขนบธรรมเนียมที่แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตา ต่อบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย และผู้ที่มีพระคุณที่เราเคารพนับถือ
ในส่วนของประเพณี "รดน้ำดำหัว" ฤกษ์ดั้งเดิมจะทำกันในวันสุดท้ายของวันสงกรานต์ (15 เม.ย.) ซึ่งเรียกว่า "วันเถลิงศก" เพียงวันเดียวเท่านั้น แต่ปัจจุบันให้ยึดเอาความสะดวกของแต่ละครอบครัว ตีความได้ว่า "ฤกษ์ดีวันสงกรานต์" จะทำบุญพระ หรือสักการะขอพรผู้หลักผู้ใหญ่ให้เลือกทำวันไหนก็ได้ระหว่างวันที่ 13 - 15 เม.ย. 67