svasdssvasds

เจาะ Insight เทรนด์คนไทยยุคใหม่เป็น Pet Parent "เลี้ยงสัตว์เหมือนลูก"

เจาะ Insight เทรนด์คนไทยยุคใหม่เป็น Pet Parent "เลี้ยงสัตว์เหมือนลูก"

The 1 Insight และ CRC VoiceShare เจาะลึกเทรนด์ Pet Parent ในไทยล่าสุด 2567 พบภาพรวมตัวเลขการเลี้ยงสัตว์ในบ้านมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตั้งแต่ยุคหลังโควิดเป็นต้นมา สวนทางกับอัตราการเกิดของประชากรไทยที่ลดลงในทุกๆ ปี

SHORT CUT

  • จากผลสำรวจพบว่าGen Y ขึ้นแท่นทาสแมวอันดับ 1 ส่วน Gen Z ใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเติบโตสูงสุด 46%
  • พฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์ในบ้านโดย CRC VoiceShare ชี้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ 65% เลี้ยงสัตว์เหมือนลูกหรือสมาชิกในครอบครัว
  • ผู้เลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันยังใช้จ่ายกับ ‘บริการ’ เพื่อสัตว์เลี้ยงต่างๆ ในทุกเดือน โดยบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับได้แก่ บริการอาบน้ำ-ตัดขน-สปา บริการรับฝากเลี้ยง เป็นต้น

The 1 Insight และ CRC VoiceShare เจาะลึกเทรนด์ Pet Parent ในไทยล่าสุด 2567 พบภาพรวมตัวเลขการเลี้ยงสัตว์ในบ้านมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตั้งแต่ยุคหลังโควิดเป็นต้นมา สวนทางกับอัตราการเกิดของประชากรไทยที่ลดลงในทุกๆ ปี

วัยรุ่นGen Z ใช้จ่ายไปกับสัตว์เลี้ยงมากสุด

เผยยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตเลข 2 หลักต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ล่าสุดเติบโต 14% ในปี 2566 จากฐานข้อมูล The 1 บ่งชี้ว่าผู้เลี้ยงสัตว์ในบ้านมักมีแนวโน้มที่จะมีฐานะและเป็นกลุ่มลูกค้ามูลค่าสูง (High-value users: HVUs) โดย 65% เป็นกลุ่ม Pet Parent ที่มีพฤติกรรมเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก 

มีค่าใช้จ่ายรายเดือนต่อสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวเฉลี่ยถึง 1-2 หมื่นบาทต่อปี พร้อมเจาะพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์ตามแต่ละช่วงวัย พบว่า Gen Y ขึ้นแท่นทาสแมวอันดับ 1 ส่วน Gen Z ใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเติบโตสูงสุด 46% อีกทั้งยังเผยเทรนด์ธุรกิจเพื่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่กำลังมาแรง อาทิ อาหารสัตว์เกรดโฮลิสติก และ Pet Wellness Center บริการดูแลและรักษาสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร 

สินค้าที่มียอดขายสูงสุดในหมวดสัตว์เลี้ยง

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของพฤติกรรมการใช้จ่าย พบว่า ตัวเลขยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับแมวนั้นคิดเป็น 63 % ของยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์ทั้งหมด เนื่องจากสินค้าสำหรับแมวมีความหลากหลายที่ตอบโจทย์ความต้องการของเหล่า Pet Parent กว่าสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ โดยสินค้าที่มียอดขายสูงสุดในทุกหมวดสัตว์เลี้ยง

ได้แก่ อาหารและขนมสำหรับแมว ทรายแมว และห้องน้ำแมว นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มการขยายตัวของจำนวนผู้เลี้ยงสัตว์ Exotic อาทิ ปลา กระต่าย และนก เป็นต้น สะท้อนผ่านตัวเลขการใช้จ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง Exotic ที่เติบโตสูงกว่า 50% ในขณะที่ยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับแมวเติบโตอยู่ที่ 8% ยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขเติบโตอยู่ที่ 6%  

คนไทยส่วนใหญ่ 65% เลี้ยงสัตว์เหมือนลูก

จากผลสำรวจพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์ในบ้านโดย CRC VoiceShare ชี้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ 65% เลี้ยงสัตว์เหมือนลูกหรือสมาชิกในครอบครัว หรือที่เรียกว่า Pet Parent ในขณะที่ 33% เลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงา และ 2% เลี้ยงสัตว์เพื่อการบำบัดเยียวยาจิตใจ นอกจากนี้ อันดับสัตว์เลี้ยงยอดนิยมยังคงเป็นไปตามคาด โดย 63% เลือกเลี้ยงสุนัข 49% เลือกเลี้ยงแมว 12% เลือกเลี้ยงสัตว์ Exotic โดยสัตว์เลี้ยง Exotic ที่เป็นที่นิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ ปลา กระต่าย และนก 

Gen Z เลี้ยงสุนัขมากที่สุด

นอกจากนั้น ยังพบว่าผู้เลี้ยงในไทยยังคงได้สัตว์เลี้ยงมาจากการซื้อจากร้านหรือฟาร์ม ยกเว้นเหล่าทาสแมว ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 50% ที่ได้สัตว์เลี้ยงมาจากการรับอุปการะแมวจรจัด การเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับเทรนด์ “Adopt, Don’t Shop” ซึ่งเป็นแคมเปญระดับโลกที่ทั้งองค์กรและคนดังต่างร่วมกันรณรงค์ให้คน ‘รับเลี้ยง’ สัตว์จรจัดมากกว่าการ ‘ซื้อ’ จากฟาร์ม
เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างแต่ละช่วงวัยกับพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์ พบว่าในภาพรวม Gen Z เลี้ยงสุนัขมากที่สุด ทั้งยังมีการใช้จ่ายเติบโตสูงสุดจากทุกช่วงวัยถึง 46% ส่วน Gen Y มีสัดส่วนผู้เลี้ยงแมวสูงสุดจากสัตว์ทุกชนิด 

เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบและนิยมในการอาศัยอยู่คอนโดฯ การเลี้ยงแมวจึงเป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับคนรักสัตว์ในวัยสร้างตัว ในส่วนของ Gen X มีสัดส่วนผู้เลี้ยงปลาและนกสูงสุดจากสัตว์เลี้ยงทุกชนิด เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงที่เสริมให้บ้านมีชีวิตชีวาได้โดยไม่สร้างภาระให้ผู้เลี้ยงมากนัก อีกทั้งยังอาจช่วยเสริมความสิริมงคลตามความเชื่อได้อีกด้วย และ Baby Boomer นั้นเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่เลี้ยงสัตว์น้อยที่สุดจากทุกช่วงวัย

เจาะ Insight เทรนด์คนไทยยุคใหม่เป็น Pet Parent \"เลี้ยงสัตว์เหมือนลูก\"
 

นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันยังใช้จ่ายกับ ‘บริการ’ เพื่อสัตว์เลี้ยงต่างๆ ในทุกเดือน โดยบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับได้แก่ บริการอาบน้ำ-ตัดขน-สปา บริการรับฝากเลี้ยง บริการสระว่ายน้ำและสถานที่ออกกำลังกาย พร้อมทั้งยังเผยว่า กว่า 65% ของผู้เลี้ยงสัตว์ต้องการใช้บริการ ‘Pet Wellness Center’ หรือบริการดูแลและรักษาสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ที่มีพร้อมทั้งการดูแลทั่วไปไปจนถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยผ่อนภาระให้ผู้เลี้ยงสามารถฝากดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนรักได้อย่างไร้กังวลเมื่อมีเหตุจำเป็น นอกจากนี้ยังมีผู้เลี้ยง 40% ที่ต้องการให้มี ‘คลินิกเฉพาะทาง’ มากขึ้น และ 27% ที่ต้องการให้มี ‘Pet Park สถานที่ออกกำลังกาย’ มากขึ้น โดยที่บริการเหล่านี้ยังไม่แพร่หลายในประเทศไทยมากนัก เมื่อประกอบกับเทรนด์ Pet Parent ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นได้ชัดว่าธุรกิจสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงนับว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจทีเดียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

related