Gen Z ทำงานหนักมากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ยังไม่มีเงินซื้อบ้าน!

ที่ผ่านมา ชาว GEN Z ที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น มักถูกมองว่าเป็นพวกขี้เกียจ ไม่ตั้งใจทำงาน และชอบสร้างแต่เรื่องน่าปวดหัว เห็นได้จาก กรณีของ “โจดี้ ฟอสเตอร์ (Jodie Foster)” นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังที่ออกมาบ่นเมื่อไม่นานมานี้ว่า Gen Z แต่ละคนทำงานอารมณ์ของตัวเอง คิดจะทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ”

แต่ ชาว GEN Z นั้น ทำงานด้วยยากอย่างที่คนรุ่นอื่นคิดจริงหรือเปล่า หรือพวกเขาแค่มองว่าไม่รู้จะทำงานหนักไปเพื่ออะไรกันแน่ เพราะ “ร็อบบี สก็อตต์ (Robbie Scott)” หนุ่มชาว GEN Z คนหนึ่ง ออกมาตอกกลับคำวิจารณ์ของคนรุ่นอื่นผ่านช่องทาง TIKTOK ว่า “คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่า รสชาติของการทำงานหนัก โดยไม่ได้สิ่งตอบแทนที่คนรุ่นใหม่ต้องเจอนั้น เป็นอย่างไร”

 

“เราต้องหยุดคาดหวังให้พวกบูมเมอร์มาเข้าใจ เพราะพวกเราคงไม่มีวันซื้อบ้านสี่ห้องนอนพร้อมรถคาดิลแลคเปิดประทุนได้ด้วยเงินเดือน 30,000 ดอลลาร์ต่อปี ยิ่งไปกว่านั้น เราต้องทำงานเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ก็เงินก็ยังไม่พอซื้ออพาร์ทเม้นท์สตูดิโอขนาด 400 ตารางฟุตได้เลยด้วยซ้ำ” สก็อตต์ อธิบายในคลิป Tiktok ของเขา ซึ่งคลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว และมีผู้ชมกว่า 20 ล้านคนก็เห็นด้วยกับเขา

“ผมรู้จักคนอายุ 30 กลางๆ ที่ทำงานมา 20 ปีแล้ว” สกอตต์กล่าว “นั่นเทียบเท่า 70% ของเวลาตื่นในชีวิตมนุษย์ไปแล้ว แต่พวกเราก็ยังไม่มีเงินซื้อบ้านหลังแรกเลยด้วยซ้ำ”

“คนรุ่นใหม่กำลังทำงานมากกว่าคนรุ่นเก่า” เขากล่าวเสริม “แต่เรายังทำรายได้น้อยกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างมาก ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลย”

ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงมองว่า ไม่รู้จะทำงานหนักไปทำไม

สก็อตต์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เหตุผลที่ “Gen z” และ “มิลเลนเนียล” เริ่มไม่พอใจสังคมการทำงาน และเรียกร้องสิทธิของตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่เพราะพวกเขาต้องการทำงานน้อยกว่าคนรุ่นก่อน แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้รับอะไรจากการทำงานนั้นเลย

“สิ่งที่เลวร้ายคือ พวกเราทำทุกอย่างที่ควรทำแล้ว” สก็อตต์เล่า “เราเรียนหนังสือ เข้ามหาวิทยาลัย เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 15-16 ปี และทำทุกอย่างที่คนรุ่นก่อนอยากให้ทำ แต่เพื่ออะไรหละ?เพราะหลายคนที่อายุ 20 ปลายๆ ตอนนี้ยังไม่มีรายได้พอที่จะย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ซะด้วยซ้ำ”

คำพูดของ สก็อตต์ ค่อนข้างอธิบายถึงปัญหาได้ถูกจุด เพราะคนรุ่นมิลเลนเนียลคือคนรุ่นที่มีการศึกษามากที่สุดในประวัติศาสตร์ รองลงมาคือ “Gen Z” แต่โอกาสทางการเงินและโอกาสในการได้งานทำยังมีน้อยกว่าผู้สำเร็จการศึกษาที่เป็น “Gen X” อย่างมาก

แย่ไปกว่านั้น ทั้ง “Gen Z” และ “มิลเลนเนียล” ต่างเป็นรุ่นที่ก่อหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษามากกว่าคนรุ่นอื่น แต่เมื่อเรียนจบพวกเขากลับพบว่า ใบปริญญานั้นมีค่าน้อยมาก และ มากกว่าครึ่งของงานสมัยนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีวุฒินี้ด้วยซ้ำ

จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ “Bankrate” บริษัทให้คำปรึกษาการเงินในสหรัฐ ออกมาเผยว่า ชาวอเมริกันที่มีหนี้กยศ. กว่า 24% มองการเรียนมหาวิทยาลัย เป็นความสูญเสียทางการเงินใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคนหนุ่มสาวสามารถหางานได้ พวกเขาจะพบว่าเงินเดือนของพวกเขาไม่ได้มีกำลังจ่ายมากเหมือนรุ่นพ่อแม่

หากต้องการซื้อบ้านในเวลานี้ ที่มีราคาเฉลี่ยหลังละประมาณ 433,100 ดอลลาร์ ชาวอเมริกันจะต้องมีรายได้ต่อปีประมาณ 166,600 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ค่ามัธยฐานของครัวเรือนมีรายได้เพียง 74,580 ดอลลาร์ ตามข้อมูลของเว็บไซต์ Home Bay ทำให้คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันไม่สามารถทำงานได้แค่งานเดียวอีกต่อไป แต่ต้องทำสามงานขึ้นไป เพื่อให้ทันกับต้นทุนของการดำรงชีวิตที่เพิ่มขึ้น

ความฝันของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่มีวันเป็นจริง

วิดีโอไวรัลของสก็อตต์ ทำให้เห็นถึงความแตกต่างที่ชัดเจน ระหว่างโอกาสของคนรุ่นใหม่ และรุ่นก่อนหน้า ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่าคนรุ่นใหม่กำลังวิ่งไล่ตามความฝันที่ไม่อาจบรรลุได้

“ฉันจะเสียใจตลอดไปเลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัย” ผู้ใช้คนหนึ่งคอมเมนต์บนคลิป Tiktok ของ สก็อตต์

“งานแรกของฉันตอนอายุ 16 ปี ได้ค่าจ้าง 7.25 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง 10 ปีต่อมา ฉันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี แต่ก็มีรายได้แค่ 14 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง พวกเขาขายเรื่องโกหกให้เรา” ผู้ใช้อีกคนคอมเมนต์

แม้แต่ Gen X บางคนก็คอมเมนต์ตอบ คลิป Tiktok ของ สก็อตต์ เชิงเห็นด้วยเช่นกัน โดยเขียนว่า คนทำงานทุกวันนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ฉันอายุ 44 และบอกได้เลยว่าตอนฉันอายุ 25 ก็ไม่ได้ทำงานถึง 40 ชั่วโมง แต่คนหนุ่มสาวตอนนี้เหมือนทำงานเทียบเท่ากับคน 2-3 คนทำในเวลาเดียวกัน”

ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ใช้ Tiktok ที่กล่าวโทษคนหนุ่มสาวที่ไปเรียนมหาวิทยาลัย โดยคอมเมนต์ว่า “ไปเลือกเรียนคณะที่หางานยากเอง อย่าโทษใครนอกจากตัวเองดีกว่า” 

ที่มา fortune

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• เปิดรายชื่อ 50 บริษัทที่คน GEN ใหม่ อยากทำงานด้วยมากที่สุดในปี 2024 
• รู้จัก "ช่องว่างระหว่างวัย" หรือ Generation Gap ที่อาจเป็นปัญหาหลักที่ทำงาน 
• Loud Budgeting เทรนด์การเงินของคน GEN Z ที่ขอประหยัดไว้ดีที่สุด