'เรดไลฟ์' หนังเรื่องแรกจากสตูดิโอ Brandthink Cinema เดินหน้ากวาดกระแสอย่างต่อเนื่อง หลังเข้าฉายได้เพียง 6 วัน 'เรดไลฟ์' มีชื่อเสียงเรียงนามว่า 'เป็นหนังรักรสขม' ในการบอกเล่าเรื่องราวของความรักหลายรูปแบบที่ผลิบานในซอกหลืบของสังคมอย่างสลัม
ณ เวลานี้ คงไม่เกินจริงนักหากเราจะกล่าวว่า หนังไทยกำลังคึกครื้นอย่างสุดขีด หลังมีภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง เรียงแถวเข้าฉายให้ผู้ชมอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุดหย่อน และเดินหน้ากวาดรายได้ กระแส อีกทั้งยังสร้างแรงกระเพื่อมให้ผู้คนตัดสินใจซื้อตั๋วมารับชมที่โรงหนัง
และเช่นเดียวกัน ‘เรดไลฟ์’ ผลงานการกำกับของ ‘เอกลักญ กรรณศรณ์’ หนึ่งในภาพยนตร์ซึ่งออกฉายในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ นอกจากจะสร้างกระแสปากต่อปากด้วยรสชาติใหม่ ๆ ที่ตั้งใจนำเสนอ ตัวหนังยังได้รับเลือกเข้าประกวดในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียวครั้งที่ 36 อีกด้วย ซึ่งถูกจัดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยในเทศกาลนี้ ‘เรดไลฟ์’ ได้รับเลือกเข้าประกวดในสาย ‘Asian Feature’ ซึ่งเป็นการประกวดภาพยนตร์ของผู้กำกับหน้าใหม่จากเอเชีย สุดพิเศษ! เรดไลฟ์ ได้รับเกียรติให้จัดฉายรอบเวิลด์พรีเมียร์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียวครั้งนี้ด้วย
อย่างที่ทราบกันว่า ตามงานเทศกาลภาพยนตร์ต่าง ๆ ทั่วโลก มักมีบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ตบเท้าเข้ามาร่วมงานเป็นประจำทุกปี สำหรับในปีนี้เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว ได้เชิญผู้กำกับชาวเยอรมัน 'วิม เวนเดอรส์' เจ้าของผลงานอย่าง Paris Texas (1984), Im Lauf der Zeit (1976), Perfect Days (2023) มาร่วมเป็นประธานกรรมการสายประกวดหลัก นอกเหนือจากนี้ยังมี ผู้กำกับจางอี้โหมว นักแสดงสาวจากแดนมังกรอย่าง ฟ่าน ปิงปิง ก็ไม่พลาดที่จะมาร่วมงานนี้
‘เรดไลฟ์’ ว่าด้วยเรื่องของ ‘ส้ม’ เด็กสาววัยมัธยมที่เกิดมาพบวงจรชีวิตที่แม่หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นโสเภณีตามซอกหลืบของสังคมอย่างสลัม และเพื่ออนาคตที่สดใสขอลูกสาว เธอจำเป็นต้องสละเรือนร่างในการหาเงินเข้าบ้าน เพื่อส่งเสียลูกสาวให้ได้รับการศึกษาที่ดี แม้จะทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ก็ตาม
ภายใต้ความเส็งเคร็งของชีวิตที่เผชิญ ส้มก็ได้พบกับพีช รุ่นพี่สาวในโรงเรียน ทั้งสองพบกัน จากนั้นก็พัฒนาความสัมพันธ์อย่างจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ และทั้งสองเฝ้าฝันว่าจะได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยกันสองคน แต่ความเป็นจริงของชีวิตกลับมีอะไรมากกว่าที่เห็น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ‘เต๋อ’ โจรไร้ราคา ที่เก็บขาวเก็บของออกจากบ้านตั้งแต่เล็ก ๆ และหาเลี้ยงชีพด้วยการฉกชิง วิ่งราวคนที่ผ่านไปผ่านมาเพื่อพอประทังปากท้องไปวัน ๆ แต่ระหว่างนั้น เต๋อก็มีอีกคนที่คอยเคียงข้าง
'มายด์' โสเภณีที่เต๋อได้ครอบครองทั้งร่างกายและหัวใจ ทั้งสองคน ต่างใช้วิธีของตัวเองในการหาเงินเพื่อมาร่วมกันสร้างชีวิตด้วยกัน แต่เช่นเคย ชีวิตนี้ไม่มอบอะไรให้เราง่าย ๆ เต๋อต้องพบกับอุปสรรคที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และถูกความมืดกลืนกินไปทีละน้อย ๆ
ขณะนี้ ‘เรดไลฟ์’ มุ่งหน้าเข้าสู่วันที่ 6 ของการออกฉาย และผู้ชมหนังไทยก็ให้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นที่เสิร์ฟความแปลกใหม่ออกสู่จอภาพยนตร์ หลายคนนิยามหนังเรื่องนี้ว่าเป็น ‘หนังรักรสขม’ โหมโรงความขมด้วยนักแสดงที่คับคั่งดังนี้
แน่นอนว่า การที่หนังสักเรื่องจะสามารถซื้อใจผู้ชมได้ มีหลากหลายองค์ประกอบด้วยกันเช่น บท งานสร้าง ความสมจริง เพลงประกอบ ภาพ และการแสดง ‘เรดไลฟ์’ ได้ Acting Coach มือฉมังอย่าง ‘อรพรรณ อาจสมรรถ’ หรือที่เรารู้จักกันในนาม ‘ครูบิว’ มาช่วยผู้กำกับ ‘เอกลักญ กรรณศรณ์’ เนรมิตเนื้อหนัง จิตวิญญาณให้กับตัวละครในเรื่อง
ครูบิวเล่าว่า ช่วงปี 2022 ครูบิวมีความคิดครู่หนึ่งที่จะเลิกสอนการแสดง แต่ระหว่างนั้นผู้กำกับ 'เอกลักญ กรรณศรณ์' ก็ได้โทรมาชวนให้ตน มาเป็น Acting Coach ให้กับหนังเรื่องนี้ โดยโยนโจทย์มาให้ว่า ‘อยากได้การแสดงแบบที่จริงที่สุดและ minimal ที่สุด’
หลังจากได้รับโจทย์มาแล้ว ครูบิวจึงไปรีเสิร์ชด้วยการลงพื้นที่จริง ไปพูดคุยกับคนในพื้นที่ที่จะใช้ถ่ายทำจริง ๆ ไปเห็น สัมผัส และเข้าใจสิ่งที่ผู้คนในพื้นที่แห่งนั้นรู้สึก จากนั้นก็นำพานักแสดงให้เข้าคาแรคเตอร์ได้อย่างแนบเนียน โดยครูบิวเน้นย้ำว่า
“นักแสดงต้องสบาย ต้องเข้าและออกจากตัวละครให้ได้ ไม่เก็บปมตัวละครไปเป็นปมของตัวเอง”
หลังจากได้ฟังความในใจจาก Acting Coach ไปแล้ว ถึงตรงนี้อยากจะทิ้งท้ายไว้ด้วยความในใจของผู้กำกับ ‘เอกลักญ กรรณศรณ์’ ต่อภาพยนตร์ ‘เรดไลฟ์’ บ้างว่า ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มโปรเจกต์ จนถึงอีก 1 วันที่หนังจะออกฉาย เขารู้สึกอย่างไร?
“RedLife เป็นหนังเรื่องแรกของตัวเองและของสตูดิโอ BrandThink Cinema เป็นหนังที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเรื่องราวมากมายเต็มไปหมดตลอด 5 ปีของการสร้าง ทีมเขียนบทที่มีหลายคนใช้เวลาร่วม 3-4 ปีในการคลอดกระดาษยาว 120 หน้าออกมา”
“ทีมแคสติ้งต้องมานั่งทำสิ่งซ้ำๆ ร่วมกันอาทิตย์ละหลายครั้งเป็นเวลาเกือบปีเพื่อให้ได้นักแสดงที่ใช่ที่สุด ทีมโปรดักชั่นที่เจอทั้งฝน โควิด ความยากลำบากบนการถ่ายทำบนสถานที่จริง ทีมนักแสดงที่ต้องลดน้ำหนักเป็นสิบกิโลบ้าง แปดกิโลบ้างหลายคน”
“ซ้อมและถ่ายอย่างเข้มข้นเพื่อเค้นเอาการแสดงอย่างที่ไม่เคยทำ ทีมตัดต่อ ทีมเสียง ทีมสี ทีมภาพที่ทุ่มเทเวลาและความคิด รวมถึงทีมงานโปรโมทอีกหลายสิบคนที่ประชุมถกเถียงกันอย่างเข้มข้นตลอดเกือบครึ่งปีที่ผ่านมาเพื่อรอวันนี้”
“มีคนในวงการบอกว่าเวลาที่หนังกำลังจะเข้า จะเป็นช่วงเวลาที่คนทำหนังตื่นเต้นที่สุด แต่สำหรับเราทำไมเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกปล่อยวางนะ อาจเพราะรู้สึกว่าทำทุกอย่างหมดแล้ว ทำดีที่สุดแล้ว หากสิ่งที่ตั้งใจทำมีผู้คนจำนวนมากชอบก็คงจะดีใจมาก แต่ถ้าไม่ใช่ อย่างน้อยก็รู้สึกภูมิใจที่สุดที่ได้ทำ RedLife ออกมา”
สำหรับโรงภาพยนตร์เมเจอร์ จองตั๋วได้ที่นี่ majorcineplex
สำหรับโรงภาพยนตร์ SF จองตั๋วได้ที่นี่ sfcinemacity
เนื้อหาที่น่าสนใจ