สรุปให้ ภาพยนตร์ หุ่นพยนต์ จัดเรตติ้ง ทำไมได้ เรต ฉ. 20- และต้องเลื่อนฉาย

เรื่องราวของดราม่าภาพยนตร์ หุ่นพยนต์  เกิดขึ้น เมื่อคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ หรือที่คนทั่วไป รู้จักกันในนาม “กองเซ็นเซอร์” มีมติให้ภาพยนตร์ไทยเรื่อง “หุ่นพยนต์” ซึ่งมีกำหนดฉายในตอนแรก คือวันที่ 9 มีนาคม 2566 เป็นหนังเรต ฉ. 20-  โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา หนังเรื่องนี้ก็ได้ ผ่านกระบวนการโปรโมตแล้ว ได้ใช้งบในการประชาสัมพันธ์ไปแล้ว  นอกจากนี้ ยังจัด งาน GALA PREMIERE หุ่นพยนต์ ไปแล้วด้วย เมื่อ 7 มีนาคม 2566

แต่การที่หนังได้ เรต ฉ 20- นั่นหมายความว่า ภาพยนตร์ หุ่นพยนต์  จะ ห้ามผู้ชมที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าชม และจะต้องมีการตรวจบัตรประชาชนที่หน้าโรงภาพยนตร์ก่อนทุกคน 

ดังนั้น การที่ ภาพยนตร์ หุ่นพยนต์ จัดเรตติ้ง ได้เรต ฉ. 20- จะส่งผลให้ มีการจำกัดจำนวนผู้ชม และ มีโอกาสตัด รายได้ จากตั๋วหนังจากกลุ่มคนที่อายุไม่ถึง 20 ปี ไปโดยปริยาย 
 
ในขณะเดียวกัน ทางคณะกรรมการฯ แจ้งว่า  ภาพยนตร์เรื่องนี้  ยังมีฉากทำให้กระทบความมั่นคงของประเทศ และสร้างความแตกแยกในสังคมอยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• กทม. ผลักดัน เทศกาลหนังกรุงเทพ ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังไทยยั่งยืนขึ้น
• สมบัติ เมทะนี ประวัติผลงาน : ชวนดู ฟ้าทะลายโจร หนังไทยเรื่องแรก ไปเมืองคานส์
• มนต์รักทรานซิสเตอร์ สุดยอดหนังไทย พัฒนาจากงานเขียนนวนิยาย วัฒน์ วรรลยางกูร
• ไมค์ ภณธฤต ผู้กำกับ หุ่นพยนต์ เป็นงง หลังภาพยนตร์โดนเลื่อนฉาย ได้เรต ฉ.20-

โดยก่อนหน้านี้ ค่ายภาพยนตร์ “ไฟว์สตาร์” ต้องตัดฉากสำคัญและทอนเนื้อเรื่อง อันได้แก่ 

1. ตัดฉากชื่อวัดเทพหุ่นพยนตร์ 
2. ตัดฉากเณรชกกันในชุดผ้าเหลืองและให้มีการลดคำหยาบให้น้อยลง 
3. ตัดฉากคลุกอาหาร เหมือนรังแกให้เด็กชื่อเต๊ะทาน 
4. ตัดฉากเณรกอดผู้หญิงในการต่อสู้ 
5. ตัดฉากท่องศีล 5 ในขณะที่ฆ่าคนที่ขโมยของ 
และ 6. มีข้อสังเกตว่าพระหรือเณรในเมืองไทยต้องโกนคิ้ว แต่ทั้งเรื่องไม่มีพระเณรที่โกนคิ้วเลย 

ทั้งนี้ “กองเซ็นเซอร์” ได้อาศัย ตามความในมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดิทัศน์ พ.ศ. 2551  โดย มาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดิทัศน์ พ.ศ. 2551 นั้นบัญญัติไว้ว่า ในการพิจารณาอนุญาตภาพยนตร์ตามมาตรา 25 ถ้าคณะกรรมการพิจารณา ภาพยนตร์และวีดิทัศน์เห็นว่าภาพยนตร์ใดมีเนื้อหาที่เป็นการบ่อนทำลาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐและเกียรติภูมิของประเทศไทย ให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์มีอำนาจสั่งให้ผู้ขออนุญาตแก้ไขหรือตัดทอน ก่อนอนุญาต หรือจะไม่อนุญาตก็ได้

ภาพยนตร์ที่ผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาตตามมาตรา 25 มิให้ถือว่าภาพยนตร์นั้น มีลักษณะที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคหนึ่ง 

จากเรื่องราวการจัดเรตติ้งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ส่งผลให้ทางค่ายหนัง ตัดสินใจเลื่อนฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนดไปก่อน  ทั้งที่หนังกำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 9 มี.ค. 2566 โดยทางค่ายต้องกลับไปแก้ไขฉากต่างๆ ทำการเซ็นเซอร์ใหม่ เพื่อให้เรตของผู้เข้าชมหนังสามารถเข้าชมได้มากขึ้น

ทั้งนี้ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับ ฟ้าทะลายโจร (2543) ,เปนชู้กับผี (2549) อินทรีแดง (2553) ให้ความเห็น กับ SPRiNG ว่า ประเด็นการจัดเรตติ้งนั้น ต้องได้คนที่มีความรู้ทางภาพยนตร์ไปดูแลด้วย และควรจะมีตัวแทนจากฝั่งวิชาชีพ ตัวแทนจากสมาพันธ์ผู้กำกับ หรือ ผู้ทรงคุณวุฒิจากฝั่งคนทำงาน เพื่อไป ปกป้อง (defense) งานที่สร้างมา , ซึ่งในการจัดเรตติ้งของหนังแต่ละเรื่อง ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการแต่ละคณะที่ไม่เหมือนกันเลย และมาตรฐานก็ แรนด้อม (Random) ตามแต่คณะกรรมการแต่ละชุด

ขณะที่ ป้อง-ไพรัช คุ้มวัน ผู้กำกับภาพยนตร์ สยามสแควร์ (2560) และเป็นหนึ่งใน ผู้กำกับซีรีส์ เด็กใหม่ (แนนโน๊ะ)  ให้ความเห็นกับ SPRiNG ว่า การได้ เรต ฉ.20- อาจจะทำให้มีผลกับจำนวนคนดู  ซึ่งในการจัดเรตติ้งนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ซึ่งสลับสับเปลี่ยนกันมา แต่การที่ค่ายหนังยอมเลื่อนฉายไปแบบนี้ มันส่งผลเสียต่อตัวหนังไปแล้ว