ชวนดู ภาพยนตร์ The Blind Side แม่ผู้นี้มีแต่รักแท้ หนังวันแม่ ที่จะฉายภาพความงดงาม การใช้โอกาสของผู้เป็นแม่ จนลูก(บุญธรรม) ซึ่งตลอดชีวิตไม่เคยได้รับโอกาสอันดี ได้พลิกฟื้นชีวิต ยืนหยัดในสังคมได้อย่างมั่นคง ขอเพียง มีความคิดที่ดี มักจะดึงดูดความคิดดีอื่นๆ ตามมาเสมอ
ภาพยนตร์ The Blind Side มักจะถูกหยิบยกมาพูดถึงในช่วงโอกาสวันแม่ เสมอๆ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นกระจก สะท้อน ความรักแท้จากแม่ จากผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถ่ายทอดส่งต่อไปยัง ลูกซึ่งเป็นลูกบุญธรรม ลูกที่ไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข แต่ ตัวละครแม่คนนี้ ก็รักสุดหัวใจ
หนัง The Blind Side ชื่อไทย แม่ผู้นี้มีแต่รักแท้ ออกฉายในปี 2009 โดยเป็นผลงานการกำกับของ จอห์น ลี แฮนค็อก John Lee Hancock และมีนักแสดงนำ อย่าง แซนดร้า บูลล็อก Sandra Bullock ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ ส่งให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิง ออสการ์ ในปี 2010 ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
7 เคล็ดลับปั้นคุณแม่ เริ่มต้นเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่ายๆ วางแผนในยุคดิจิทัล
ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ แอ็กชั่นหายนะ เที่ยวบินวิปโยค ที่โลกไม่อยากให้ลงจอด
The Blind Side แม่ผู้นี้มีแต่รักแท้ เป็นเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง หนังเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ไมเคิล ออร์ นักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ทีม Baltimore Ravens , Tennessee Titans และ Carolina Panthers โดย มี ควินตัน แอร่อน Quinton Aaron แสดงเป็นไมเคิล ออร์ กับ คุณแม่บุญธรรม ลีห์ แอนน์ ทูฮี Leigh Anne Tuohy ที่แสดงโดย แซนดร้า บูลล็อก
เนื้อเรื่อง The Blind Side เรื่องย่อ นั้น พูดถึงชีวิต ไมเคิล ออร์ เด็กพลัสไซส์ตัวใหญ่ยักษ์ ที่ผู้คนเรียกว่า Big Mike (แต่เขาเองไม่ชอบที่จะให้ใครมาเรียกเขาแบบนี้ เพราะมันคือการบูลลี่กลายๆ) ชีวิตรันทดในวัยเด็กไมเคิล ออร์ เกิดที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 1986 ในครอบครัวที่แม่ติดยาเสพติด ส่วนพ่อก็แยกทางกันตั้งแต่เขาเกิดมา ก่อนจะไปเสียชีวิตในเรือนจำ ระหว่างที่ลูกชายเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น
ไมเคิล ออร์ มีพี่น้องทั้งหมด 12 คน แต่ละคนล้วนกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง เพราะแม่ติดยาเสพติดจนไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้ ทำให้ไมเคิล ออร์ ต้องเดินเข้าออกสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และต้องไปอาศัยหลับนอนบนโซฟา ตามบ้านคนรู้จักตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
การเร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีผู้ปกครองคอยดูแล ทำให้ไมเคิล ออร์ แทบไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนแบบจริงๆจังๆเลย เขาย้ายโรงเรียนถึง 11 ครั้งในในช่วงประถม-มัธยมต้น และเรียนซ้ำชั้นอยู่หลายหน จนกระทั่งอายุ 15 ปี พ่อของเพื่อนสนิทได้พาไปฝากเข้าโรงเรียนไฮสกูลคริสเตียนชื่อดังในย่านคนผิวขาว
ที่โรงเรียนแห่งนี้ ไมเคิล ออร์ ได้เจอกับ ลีห์ แอน ทูฮี Leigh Anne Tuohy และ ลีห์ แอน ทูฮี เศรษฐีณีคนนี้ ได้รับอุปการะไมเคิล ออร์ ไปดูแลที่บ้าน ไปจัดแจงห้องนอน และที่อยู่อาศัยดีๆให้กับเขา ทั้งที่ในชีวิตจริงๆ ไมเคิล ออร์ ไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน
นั่นคือจุดเริ่มต้นของโอกาสที่ขาดหายไปในชีวิตของไมเคิล ออร์ ซึ่งหนัง The Blind Side เริ่มเล่าเกี่ยวกับชีวิตอันพลิกผันของเขาจากจุดนี้ โดยแม้การรับไมเคิล ออร์ มาอยู่บ้านเดียวกันกับครอบครัวทูฮี จะถูกสังคมตั้งคำถามในช่วงแรกๆ เพราะความแตกต่างกันทั้งทางฐานะ ประสบการณ์ และสีผิว แต่ลีห์ แอน ทูฮี ก็เชื่อเสมอในสิ่งที่เธอตัดสินใจช่วยเหลือไมเคิล ออร์ และสุดท้ายก็ได้รับการยกย่องจากสังคม
โอกาสที่เธอหยิบยื่นให้เด็กน้อยร่างใหญ่ผู้มีพรสวรรค์ในการเล่นอเมริกันฟุตบอล มันเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งไปเลย มันทำให้ไมเคิล ออร์ สามารถเรียนจบโรงเรียนได้ และเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ก่อนไต่เต้าไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพที่ประสบความสำเร็จในที่สุด โดยเขาได้แชมป์ Super Bowl กับ Baltimore Ravens ในปี 2013 ในเวลาต่อมาด้วย
เชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของ ไมเคิล ออร์ อาจไม่ค่อยมีความสุข กับความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง The Blind Side มากนัก เพราะมันทำให้ใครต่อใครพากันหันมาโฟกัสตัวเขาจากเรื่องราวในหนังมากกว่าผลงานในสนาม นอกจากนี้ภาพที่ถ่ายทอดออกมายังอาจมีการดัดแปลงเพื่อเพิ่มอรรถรส และดรามาในบางฉากบางตอน
ไมเคิล ออร์ ยกตัวอย่างฉากที่ไม่ตรงกับชีวิตจริง อย่างการพบกับครอบครัวทูฮีครั้งแรก ไมเคิล ออร์ ไม่ได้เป็นคนไร้บ้านแบบภาพที่ออกมา เพียงแต่มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ต้องไปอาศัยหลับนอนตามบ้านคนรู้จักในเวลานั้นเท่านั้น แต่ในแง่ของความเป็นศิลปะภาพยนตร์ต้องมีการดัดแปลงให้มีความดรามาติกลงไป
ภาพยนตร์ The Blind Side ทำให้เห็น ความรักอันบริสุทธิ์จากแม่คนหนึ่ง ว่าการจะดูแลและช่วยเหลือใครให้ยืนขึ้นได้ คงไม่ใช่แค่พาไปทานข้าว ซื้อเสื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้ค่าเล่าเรียน
แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ความรัก ความอดทน การค้นหาศักยภาพ และความเอาใจใส่ของ Leigh Anne ทำให้เธอเห็นศักยภาพของไมเคิล ออร์ ที่เขาเป็นนักปกป้อง คอยป้องกันคนอื่น ๆ เขาได้คะแนนเรื่องนี้ 98 ขณะที่คะแนนด้านการเรียนรู้ต่ำมาก
เธอช่วยดึงศักยภาพและช่วยให้เขาได้เติบโตเหมือนที่เราเรียกว่า Empower จน Michael ได้ค้นพบศักยภาพที่มีในตัวเองและนำมาใช้ในกีฬา และเล่นในตำแหน่ง Offensive Tackle ที่จะช่วยปิด The Blind Side ได้ดีที่สุดคนหนึ่ง
ใครที่อยากประทับใจ ความรักระหว่างแม่กับลูก ในโอกาสที่ใกล้ถึงวันแม่ แบบนี้ ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ทาง Netflix
ไปร่วมสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขใจของผู้ให้โอกาส แม่ที่รักแท้ ...และความคิดที่ดี มักจะดึงดูดความคิดดีอื่นๆ ตามมาเสมอ