SHORT CUT
ทั้งนี้การขับเคลื่อนแบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมลุยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น บริหารจัดการน้ำ อากาศ และของเสียอย่างครอบคลุม
พามาทำความรู้จัก "เทคโนโลยี Seabin V5" จาก รอยัล ภูเก็ต มารีน่า สุดล้ำดูดขยะ-ไมโครพลาสติกในทะเลภูเก็ต ด้วยการขับเคลื่อนแบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ภาคธุรกิจในตอนนี้ใครๆก็พูดเรื่องการรักษ์โลก เพราะเทรนด์ธุรกิจ และพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการแบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และพร้อมที่จะจ่ายเงินให้กับแบรนด์ที่รักษ์โลก จึงทำให้หลายแบรนด์กำลังเร่งเครื่องขับเคลื่อนองค์กรให้กรีน100% อย่างเช่น รอยัล ภูเก็ต มารีน่า ที่นำทัพโดย นายกูลู ลัลวานี ประธานบริษัท รอยัล ภูเก็ต มารีน่า ที่เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรอย่างต่อเนื่องยกระดับมาตรฐาน 'Green Luxury' จนได้รับการรับรองเป็นท่าจอดเรือปลอดคาร์บอนต่อเนื่องเป็นปีที่สอง
นายกูลู เล่าว่า Royal Phuket Marina ได้มีใช้เทคโนโลยี Seabin V5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในการรักษาความสะอาดของพื้นที่ท่าเรือ ระบบนี้ทำงานโดยใช้ปั๊มน้ำใต้น้ำเพื่อดูดซับขยะลอยน้ำ และไมโครพลาสติกในบริเวณท่าเรือ ขยะจะถูกเก็บไว้ในถุงกรองขนาดเล็ก ซึ่งในขณะที่น้ำมันและเชื้อเพลิงที่ปนเปื้อนจะถูกกรองออกก่อนปล่อยน้ำสะอาดกลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม ระบบนี้ถูกออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล
ทั้งนี้ในแต่ละเครื่องสามารถเก็บขยะได้เฉลี่ย 48 กิโลกรัมต่อวัน และได้ดำเนินการให้ระบบนี้ทำงานทุกวันเพื่อรักษามาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่สูงขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ Royal Phuket Marina ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอย่างจริงจัง และได้เก็บรวบรวมข้อมูลการชดเชยคาร์บอนมาอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการติดตามการปล่อยคาร์บอนขององค์กร โดยกลยุทธ์หลักของประกอบไปด้วยดังนี้
สำหรับเรื่องขยะหลังจากเก็บขยะแล้ว ขยะเหล่านั้นถูกนำไปจัดการอย่างไร คำตอบคือ Royal Phuket Marina ได้รับ ใบรับรอง "Zero Waste to Landfill" ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของการจัดการขยะอย่างยั่งยืน โดยสามารถลดขยะที่ต้องนำไปฝังกลบได้ถึง 99.8% ผ่านกระบวนการต่างๆ ได้แก่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“รอยัล ภูเก็ต มารีน่า”ลุยใช้พลังงานสะอาด100% ปี 2026 สู่แบรนด์ Green Luxury
พาชม! “รอยัล ภูเก็ต มารีน่า” ท่าจอดเรือปลอดคาร์บอน แห่งเดียวในเอเชีย