svasdssvasds

เวียดนาม ตั้งเป้าเปลี่ยนรถในเมืองหลวงให้เป็น "รถ EV" 100% ภายในปี 2050

เวียดนาม ตั้งเป้าเปลี่ยนรถในเมืองหลวงให้เป็น "รถ EV" 100% ภายในปี 2050

ปี 2023 กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ติดอันดับ 10 เมือง ที่มีมลพิษสูงที่สุดในโลก และ ณ เวลานี้ คนรุ่นใหม่กำลังผลักดันให้มีการเปลี่ยนไปใช้รถ EV 100%

SHORT CUT

  • รถส่วนใหญ่ในเวียดนามยังเป็นรถสันดาป ตัวเลขคร่าว ๆ คือ 77 ล้านคัน
  • เมื่อปี 2023 กรุงฮานอย ติดอันดับ 10 เมืองหลวง ที่มีมลพิษสูงที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ IQAir
  • ภายในปี 2030 ยานพาหนะ ในเมืองกว่า 50% (รถส่วนตัว และอื่น ๆ ) ต้องเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า ในกรณีของรถบัส และแท็กซี่

ปี 2023 กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ติดอันดับ 10 เมือง ที่มีมลพิษสูงที่สุดในโลก และ ณ เวลานี้ คนรุ่นใหม่กำลังผลักดันให้มีการเปลี่ยนไปใช้รถ EV 100%

อย่างที่ทราบกันว่ากว่า 90% ของคนเวียดนาม มักเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ และจักรยาน ถ้าเทียบกันแล้ว สัดส่วนของรถยนต์นับว่าน้อยมาก

ปัญหาที่เวียดนามเจอคล้าย ๆ ไทยเลยก็คือ รถส่วนใหญ่ยังเป็นรถสันดาป ตัวเลขคร่าว ๆ คือ 77 ล้านคัน ด้วยเหตุฉะนี้ ผลกระทบที่ตามมาคือควันพิษอ่วมอยู่ในเมือง ค่าฝุ่น PM 2.5 ในเวียดนาม เลวร้ายชนิดอันตรายต่อสุขภาพ

Credit AFP

เมื่อปี 2023 กรุงฮานอย ติดอันดับ 10 เมืองหลวง ที่มีมลพิษสูงที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ IQAir ชาวเวียดนามส่วนหนึ่งที่ไม่อยากอดทนกับคุณภาพชีวิตทุ่มถูกรมฝุ่นแบบนี้ จึงออกมาส่งเสียงว่า ชาวเวียดนามต้องเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้ากันได้แล้ว

คำถามคือ รถไฟฟ้ามันสามารถเข้าถึงทุกคนได้หรือยัง ค้นไปดูข้อมูลพบว่า รถไฟฟ้าในเวียดนามมีราคาประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,800 บาท แต่ปัญหาคือ ต้องเสียเวลาชาร์จหลายชั่วโมง และดูเหมือนว่าการรอไม่ใช่วิสัยของชาวเวียดนามนัก

Credit AFP

คนขับเดลิเวอรี่ชาวเวียดนามรายหนึ่ง ได้ออกมาแชร์ว่า ในฐานะคนทำงาน ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่บนท้องถนน อากาศแย่มาก และช่วงเวลาที่มียอดสั่งอาหารเยอะเป็นพิเศษ เดลิเวอรี่รายนี้ ต้องยอมเปลี่ยนกะการทำงาน เพราะอากาศแย่ และเหม็นกลิ่นน้ำมัน

ทั้งเมืองต้องเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า ภายในปี 2050

เวียดนามตั้งเป้าว่า ภายในปี 2030 ยานพาหนะ ในเมืองกว่า 50% (รถส่วนตัว และอื่น ๆ ) ต้องเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า ในกรณีของรถบัส และแท็กซี่ ต้องเป็นรถไฟฟ้า 100% และในระยะยาว รถทุกคนในเวียดนามต้องเป็นรถไฟฟ้า 100%

หากเวียดนามทำได้ตามแผนดังที่ว่าไว้ จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ 5.3 ล้านตัน หรือคิดเป็น 8% ของเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของเวียดนาม ภายในปี 2030 (226 ล้านตัน)

 

ที่มา: France24

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related