เจาะสเปคความยั่งยืน iPhone 16 ครบทุกรุ่น รักษ์โลกยังไง รู้ไว้ก่อนต่อแถวซื้อ
โหมโรงเป็นวันแรก สำหรับการเปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Pro ในประเทศไทย มีรายงานว่าผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลไปต่อคิวซื้อกันตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้า SPRiNG ชวนไปดูสเปคด้านความยั่งยืนกันหน่อยว่า Series นี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง
วันนี้ (20 ก.ย. 67) คือวันแรกที่เปิดบรรดาค่ายมือถือ หรือผู้จัดจำหน่ายต่าง ๆ อาทิ studio 7, iStudio by SPVi เปิดให้ลูกค้า walk-in เข้าไปจับจองกันได้เป็นวันแรก ตั้งแต่ 8.00 น.
ในโอกาสนี้ SPRiNG คอลัมน์ Keep The World จึงอยากพาผู้อ่านทุกคนไปทำความรู้จัก iPhone 16 Series ให้ดีมากยิ่งขึ้น รู้หรือไม่ว่า มือถือสองรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมองด้วยตาเปล่าอาจไม่เห็น และไม่รู้สึก แต่มันดีอย่างไร ติดตามได้ที่บทความชิ้นนี้
ผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล
ผลิตภัณฑ์ของ Apple ในยุคหลัง ๆ ให้ความใส่ในกับการหมุนเวียนวัสดุมากขึ้น โดยทางบริษัทระบุว่า iPhone กว่า 25% (รุ่นใหม่) ผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 7%
สำหรับแบตเตอรี่ของ iPhone 16 ผลิตขึ้นจากโคบอลต์รีไซเคิล 100% และลิเธียมรีไซเคิล 95% ซึ่ง Apple ตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องการใช้โคบอลต์รีไซเคิลทั้งหมด100% ภายในปี 2025 สำหรับแบตเตอรี่ไอโฟน
ใช้บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ
บรรจุภัณฑ์ของ iPhone 16 Series ผลิตขึ้นจากเส้นใยธรรมชาติ 100% เท่านั้นยังไม่พอ สติกเกอร์โลโก้ Apple ที่เคยเป็นของแถมคู่กล่อง iPhone มาอย่างยาวนาน เริ่มต้นจากการแถม 2 ชิ้น และลดเหลือเพียงชิ้นเดียวในปี 2020 เมื่อ iPhone 12 เปิดตัว แต่ล่าสุด Apple ได้ตัดสินใจนำสติกเกอร์นี้ออกจากกล่อง iPhone 16 Series ทั้ง 4 รุ่น
กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
iPhone 16 Series ทั้ง 4 รุ่น ปล่อยก๊าซคาร์บอนอยู่ที่ 74 กิโลกรัม และตลอดวงจรชีวิตตั้งแต่ต้นน้ำ (การผลิต) ไปจนถึงปลายน้ำ (การใช้งาน) Apple ระบุไว้ใน Product Environment Report ว่าปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดงลง 30%
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา Apple ได้ใช้พลังงานหมุนเวียนเข้ามาสร้างไฟฟ้าในกระบวนการต่าง ๆ ให้กับการผลิต iPhone 16 Series เพิ่มขึ้น 20% หรือประมาณ 16.5 กิกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม เราคงจำกันได้ว่า Apple เรียกร้องให้บรรดาซัพพลายเออร์มีมาตรการลดการปล่อยคาร์บอนลงไม่ว่าจะในแง่กระบวนการผลิต หรือการขนส่ง ทั้งหมดนี้เพื่อเร่งขุนบริษัทให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า
ที่มา: Apple
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
