SHORT CUT
ทุกภาคธุรกิจกำลังปรับตัวสู่เทรนด์โลก และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก วันนี้จะพามาดู"อุตสาหกรรมก่อสร้างไทย" เปิดแผนรักษ์โลก หันใช้ รถEV -ใช้วัสดุรีไซเคิล
อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ถูกมองว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 และมีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้น โดยข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในประเทศไทยมีสาเหตุมาจากปัจจัยที่ควบคุมได้ในกิจกรรมของมนุษย์ ดังนี้ การก่อสร้างอาคาร , การเผาในที่โล่ง เผาเศษวัสดุการเกษตร เผาขยะ , การจราจร, การเผาไหม้เชื้อเพลิงอุตสาหกรรม , การสูบบุหรี่ ,การใช้เตาปิ้งย่างที่ทำให้เกิดควัน และสถานประกอบการต่างๆ
ในขณะที่ข้อมูลจากองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ IEA (International Energy Agency) และ Architecture 2030 ระบุว่า เซกเตอร์การก่อสร้าง ผลิตก๊าซเรือนกระจกในแต่ละปีกว่า 27% ของทั้งโลก และถ้าหากรวมอุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้างด้วย ก็จะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึงกว่า 40%
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ไทยต้องการสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ให้ได้ ดังนั้นทุกภาคส่วน รวมถึงภาคธุรกิจ ต้องร่วมมือกันในการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยที่กระบวนการผลิต กระบวนการทำงานต่างๆ ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ก่อนจะพาไปดูว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ปัจจุบันมีแผนรักษ์โลกยังไงบ้าง พาไปดูก่อนว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ปี2567 เป็นอย่างไร โดย นายจักรพันธ์ ลีลาพร อนุกรรมการ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยในหัวข้อ “แนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ปี 2567-2568” ว่า คาดการณ์ว่าปีนี้ ภาคงานก่อสร้างในไทยจะมีมูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท ขยายตัว 1.9-2% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้าน นางสาวกัญญารัตน์ กาญจนวิสุทธิ์ นักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างไทย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การลงทุนจากภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชน โดยในปี 2567 นี้ การลงทุนภาครัฐ” มีการสะดุดเล็กน้อย สาเหตุมาจาก ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ปี 2567 ล่าช้า แต่เริ่มเห็นสัญญาณการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนในอัตราเร่ง ตั้งแต่เดือน พ.ค. 67 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้อาจประเมินได้ว่าปี 2567 การลงทุนภาครัฐ จะมีมูลค่า 794,000 ล้านบาท เติบโต 1% หรืออยู่ในภาวะทรงตัว จากปี 2566 ลงทุน 784,000 ล้านบาท สำหรับร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2568 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. นี้ ทำให้ประเมินงบลงทุนรัฐไว้ที่ 820,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากในปีนี้
ทั้งหมดจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย มีเม็ดลงทุนสูงพอสมควร แต่…โจทย์ใหญ่ของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย คือ จะทำยังไงให้รักษ์โลก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดย นางสาวฐิติรัตน์ ปฐวีวรากิตติ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มบี โกลบอล มาร์เก็ตติ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเติบโตขึ้น ด้วยมีโครงการการก่อสร้างทั้งจากภาครัฐ
และการก่อสร้างจากภาคเอกชน ซึ่งมีการคาดการณ์จากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1.4 พันล้านบาท แต่ปัจจุบันอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย มีความท้าทายมากมาย เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การขาดแคลนแรงงาน ราคาวัสดุก่อสร้างแพงขึ้น จึงต้องมองหาเครื่องจักรและเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง เข้ามาปรับ ประยุกต์ใช้เพื่อความรวดเร็วและให้ประสิทธิภาพสูงที่สุด
ปัจจุบันอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย กำลังเดินหน้าเปิดแผนรักษ์โลก ทำธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบ ESG โดยปัจจุบันพบว่า ผู้ประกอบการเริ่มน้ำเครื่องจักร หรือ รถEVที่ใช้ในงานก่อสร้าง มากขึ้น หลายบริษัทเดินหน้าเรื่องของพลังงานสะอาด นอกจากนี้ยังมีการนำเครื่องจักรไฮบริดมาใช้เพื่อลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศ
นอกจากนี้ในหลายโครงการเริ่มแยกวัสดุออกมาแล้วนำไปรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ เช่น หากมีการขูดถนน แล้วนำบางส่วนกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจะเป็นการลดของเสียที่เกิดจากงานก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผู้ประกอบการรายใดที่มีการทำ ESG ที่ดี เรียนรู้ปรับเปลี่ยนตัวเอง รับผิดชอบต่อสังคม จะส่งผลดีต่อธุรกิจเนื่องจากการประมูลงานในอนาคตลูกค้า หรือผู้บริโภคจะให้ความใส่ใจว่าบริษัทไหนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบ้าง หากบริษัทไหนทำได้ก็มีสิทธิที่จะชนะการประมูลงาน
“ยอมรับว่าการทำ ESG อาจทำให้บริษัทต่างๆมีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ทุกคนต้องปรับตัว เช่นการใช้วัสดุต่างๆ อาจมีราคาที่สูงขึ้น แต่หากมันตรงกับกลุ่มเป้ามาย หรือลูกค้ารับได้กับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายมากขึ้น การทำ ESG จะได้รับพิจารณาในการทำงานเป็นลำดับแรกๆ ก่อน ผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนตัวเองในการทำ ESG ให้มากขึ้น ESG ต้องค่อยปรับเปลี่ยนแปลงตัวเอง เริ่มตั้งแต่บุคลากรในองค์กรก่อน สร้างการรับรู้ให้บุคคลในองค์กรก่อน และกำหนดนโยบายออกมา"
อย่างไรก็ตามจากการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยที่เติบโตต่อเนื่อง จึงทำให้จะจัดงาน ConsBuild ASIA หรือ CBA Expo 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และในปีนี้ได้ขยายพื้นที่จัดงาน Concrete Expo Asia 2024 เพิ่มเข้ามา เพื่อให้ผู้ประกอบการด้านการก่อสร้าง รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาชมและสัมผัสกับเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านการก่อสร้าง เหมืองแร่ และคอนกรีต ซึ่งรวมไว้อย่างครบถ้วนภายในงานเดียว เพื่อให้ผู้ประกอบการ ผู้เข้าร่วมแสดงงานได้มีโอกาสเจรจาธุรกิจโดยตรงต่อผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจสั่งซื้อทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งได้ได้ศึกษา เรียนรู้ และอัพเดทข้อมูลต่างๆ ของภาคอุตสาหกรรมในงานนี้ด้วย
ทั้งนี้งาน CBA Expo 2024 และ Concrete Expo Asia 2024 มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00-18.00 น ณ ฮอลล์ EH100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา เป็นการจัดแสดงเครื่องจักรกล เครื่องมือ อุปกรณ์ ชิ้นส่วน อะไหล่ นวัตกรรมเทคโนโลยี สำหรับการก่อสร้าง อาคาร เหมืองแร่ คอนกรีตมากกว่า 100 แบรนด์ บนพื้นที่รวมกว่า 8,600 ตารางเมตร ทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคารของไบเทค ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น จีน เยอรมนี อินเดีย รัสเซีย ฯลฯ เข้าร่วมแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ และกำลังมองหาตัวแทนในประเทศไทย นอกจากนี้ภายในงานยังมีโซนซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รู้จักกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งคือหัวใจสำคัญของวงการอุตสาหกรรมการก่อสร้าง อาคาร เหมืองแร่และคอนกรีตของไทย
ด้านนายพอล จันทรทิม ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจงานแสดงสินค้า บริษัท เอ็มบี โกลบอล มาร์เก็ตติ้งส์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ความน่าสนใจของการจัดแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรม เครื่องจักรกล อุปกรณ์ ด้านการก่อสร้าง เหมืองแร่ และคอนกรีต ที่ทันสมัยจากนานาประเทศทั่วโลก พร้อมเปิดเวทีสัมมนานานาชาติ และกิจกรรมสร้างเสริมความรู้ การจัดสัมมนา การเสวนา เวิร์คช็อป ฟรี และการนำเสนอเทคโนโลยี โดยกูรู ผู้เชี่ยวชาญ และมืออาชีพทั้งไทยและต่างชาติ กิจกรรมการจับคู่เจรจาธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจและความร่วมมือระดับภูมิภาค
ทั้งหมด คือ ความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ที่ยังคงเดินหน้าเปิดแผนธุรกิจรักษ์โลก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน เพื่อโลกที่น่าอยู่มากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง