SHORT CUT
เรียกได้ว่าเป็นการพลิกโฉมวงการอุตฯยางพาราไทย! เมื่อ กลุ่มบริษัทศรีตรัง ลุยติดตั้ง EV Charger ในโรงงานทั่วประเทศสนับสนุนพนักงานใช้พลังงานสะอาด ร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำจุดยืน “Green Rubber Company”
ต้องยอมรับว่าพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย หนึ่งในนั้นคือ “ยางพารา” เพราะไทยคือผู้ส่งออกยางพาราเบอร์ต้นๆของโลก สร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล โดยยางพาราจัดเป็นพืชเศรษฐกิจสีเขียว (Green commodity) กล่าวคือ เป็นพืชที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยช่วยดูดซับ CO2ในอากาศ และทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น เนื่องจากยางพาราเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุเวลายาวนาน
ทั้งนี้ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ต้นยางพาราสามารถดูดซับ CO2 มาเก็บรักษาไว้ในรูปสารคาร์บอนชนิดต่างๆได้ไม่น้อยกว่า 1.7 เมตริกตัน/ไร่/ปี ถ้าวงจรการปลูกยางพาราตั้งแต่ปลูกจนถึงการตัดโค่น 25 ปีจะสามารถกักเก็บ CO2 ได้ 21.2 เมตริกตัน/ไร่ ที่อยู่ในสภาพของอินทรีย์วัตถุ
พร้อมกันนี้ซากใบ กิ่งก้าน ผล เมล็ดไม่น้อยกว่า 8 เมตริกตัน/ไร่ เป็นอาหารพืชและสัตว์แล้วสลายเป็นแร่ธาตุกลับคืนสู่พื้นดินหมุนเวียนกลับมาใช้อีก และจะสามารถกักเก็บสารคาร์บอนได้ 43 เมตริกตัน/ไร่ ไว้ในต้นยาง เพื่อสร้างผลผลิตน้ำยางและเนื้อไม้ นอกจากนี้ ยางพารายังเป็นพืชที่มีศักยภาพในการนำไปจัดทำโครงการขายคาร์บอนเครดิต (Carbon credits)*(1) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นอกจากยางพาราจะเป็นมิตรกับโลกแล้ว ผู้ประกอบการเองก็ให้ความสำคัญต่อกระบวนการผลิตอย่างยางพาราที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มบริษัทศรีตรัง ที่เดินหน้าเรื่องอุตสาหกรรมยางพาราสีเขียวมาโดยตลอดด้วย Green Rubber Company ด้วยกลยุทธ์ 4 Green และล่าสุดได้เดินหน้าแผนงานตามนโยบายด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง นำโดย บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี หรือ STA และ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT
โดยผู้บริหารคนเก่ง ‘วีรสิทธิ์ สินเจริญกุล’ กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร มอบหมายให้ทีมงานดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV Charger) ที่ใช้พลังงานจาก “โซลาร์เซลล์” (Solar Cell) หรือระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาที่ติดตั้งภายในโรงงาน นำร่องที่โรงงานหาดใหญ่ จ.สงขลาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมให้พนักงานสามารถใช้งานฟรี ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและสนับสนุนบุคลากรให้ใช้พลังงานสะอาดอย่างจริงจัง
รวมทั้งบริษัทเองก็ได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในโรงงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศและร่วมลดภาวะโลกร้อน โดยวางแผนขยายการติดตั้ง EV Charger ไปยังโรงงานทุกแห่งของกลุ่มบริษัทศรีตรังในอนาคต ตลอดจนการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้าใช้ภายในองค์กร
นอกจากนี้ บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นในการเป็น “Carbon Neutral Company” ภายในปี 2030 และ Net Zero 2050 ผ่านนโยบายด้านความยั่งยืนที่ร่วมผลักดันการใช้พลังงานสะอาดที่สำคัญหลากหลายโครงการ อาทิ การติดตั้งพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ (Solar Cell) และการนำพลังงานชีวมวล 100% Biomass มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตอย่างเต็มรูปแบบภายในโรงงานทั่วประเทศ เพื่อผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ตอกย้ำความเป็น “Green Rubber Company” หรือ “องค์กรแห่งยางสีเขียว” อย่างแท้จริง
นับว่าเป็นการพลิกโฉมวงการอุตสาหกรรมยางพาราไทยเป็นอย่างมาก กับการที่กลุ่มบริษัทศรีตรัง ลุยติดตั้ง EV Charger ในโรงงานทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนพนักงานใช้พลังงานสะอาด ร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำจุดยืน “Green Rubber Company”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV ซื้อแล้วคุ้มครองอะไรได้บ้าง? อัปเดตล่าสุด ปี 2567
Nio ผนึกกำลังยักษ์ใหญ่ EV เพิ่มงบวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State
เตือนคนเดินเท้า! รถ EV เสียงเงียบเหมือนป่าช้า โผล่อีกที โดนชนไม่รู้ตัว