SHORT CUT
ส่อง 3 เทรนด์ คือ การอยู่อาศัยแบบยั่งยืน, Smart Home and Technology , Multifunction space
การทำธุรกิจในยุคโลกเดือด ในยุคที่กฎกติกาการค้ามีมากขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ต้องรู้ "3 เทรนด์ความยั่งยืน" ใหม่มาแรง ESG ต้องเริ่มที่คนในองค์กรก่อน
การทำธุรกิจในยุคโลกเดือด โลกร้อน แทบจะไม่มีแบรนด์ไหนเลยที่ไม่พูดเรื่องความยั่งยืน ESG และเรื่องเทคโนโลยี เพราะทั้งหมดคือสิ่งที่ภาคธุรกิจต้องทำ และนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กรให้ได้ อย่างเรื่องความยั่งยืนหากไม่ทำเกมการค้าจะบีบบังคับให้การทำธุรกิจยากยิ่งขึ้นไป โดยเฉพาะการทำการค้ากับฝั่งยุโรป และอเมริกา ที่จะมีกฎ กติกา การค้ามากขึ้น รวมถึงผู้บริโภคในประเทศเองก็หันมาสนใจว่าแบรนด์ไหนใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมบ้าง ส่วนเทคโนโลยี ผู้ประกอบการก็ต้องนำมาใช้เพื่อความสะดวกสบาย และรองรับผู้โภคยุคไหม่
โดย สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้ศึกษา และติดตามนโยบายเกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วย ESG (Environmental, Social and Governance) เพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับตัวของภาคธุรกิจ ในการพัฒนาและยกระดับการผลิตสินค้าและบริการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้มีผลสำรวจของ ออพิมัส (Opimas) ที่ปรึกษาด้านการจัดการลงทุน ระบุว่า ขนาดของตลาดข้อมูล ESG (ธุรกิจให้บริการฐานข้อมูลของบริษัทที่มีการดำเนินงานตอบสนอง ESG เพื่อให้นักลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนกับกลุ่มธุรกิจที่มีเป้าหมายเพื่อความยั่งยืน) มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นครั้งแรกในปี 2564 และคาดว่าจะมีมูลค่าเกิน 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 28 % ต่อปี เนื่องจากนักลงทุนให้ความสำคัญกับการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เป็น ESG มากขึ้น
จะเห็นได้ว่าข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า สินค้า และบริการ ที่ทำ ESG กำลังมาแรง สอดคล้องกับเทรนด์ทั้งการค้า และผู้บริโภคในยุคโลกเดือด โลกร้อน เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพามาดู 3 เทรนด์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ โดย “JOHN CLARE” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยเทรนด์ใหม่ที่มาแรง 3 เทรนด์ คือ
ทั้งนี้เทรนด์ที่มาแรงโดดเด่นสุด คือ Smart Home and Technology เนื่องจากสังคมให้ความสำคัญมากที่สุดทั้งเรื่อง AI และ Robot เพราะในยุคนี้ดิจิทัล จะมาเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิตผู้คน มีการนำนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถัดมาคือ การอยู่อาศัยแบบยั่งยืน ความยั่งยืนเทรนด์จะไม่ถูกถึงไม่ได้เพราะทุกบริษัทต่างเร่งสร้างธรรมาภิบาลที่ดีให้บริษัท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
โดยเรื่องของ ESG ต้องเริ่มทำความเข้าใจจากบุคลากรของบริษัทก่อน ก่อนจะไปข้างนอก ให้พนักงานได้ใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้าในบริษัทรักษ์โลก และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือไม่ ส่วนถัดมา คือ Multifunction space ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์มากแรง เน้นการจัดบ้านที่เน้นการใช้งานได้อย่างหลากหลายในพื้นที่จุดเดียว
สำหรับบริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) ได้เดินแผนเรื่องความยั่งยืนมาโดยตลอด เช่น การมีซัพพลายเออร์ที่สามารถหาสินค้ารักษ์โลก หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพร้อมเสิร์ฟลูกค้าได้ทันที นอกจากนี้ยังเน้นการใช้พลังงานสะอาด เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่อาคารที่ จ.ภูเก็ต การออกแบบที่จอดรถสำหรับรถ EV มีการเปลี่ยนรถยนต์สันดาปให้พนักงานขายให้เป็นรถ EV พร้อมมีการคำนวนการขนส่งที่คุ้มค่ามากขึ้นด้วยการส่งของทีละจำนวนมาก ลดการใช้น้ำ ตั้งใจลดขยะ และหากวิธีกลับมาใช้ใหม่
“แผนงานจะเน้นด้าน ESG เพื่อสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ ด้วยการคำนึงการใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนาน ลดปริมาณของเสียจากการผลิต และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยการเริ่มต้นจากองค์กรขยายสู่การทำงานร่วมกับคู่ค้าที่มีแนวคิดด้าน ESG เหมือนกัน รวมถึงการพัฒนาบุคคลากรให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจที่เกิดการแข่งขันในระดับสูง เพื่อสร้างโอกาสใหม่ในการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืนจากทรัพยากรบุคคล”
อย่างไรก็ตามเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย บริษัทได้มีการเปิดตัวแคมเปญ ‘Designer Collaboration’สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แตกต่างด้วยงานออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของการอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง