วันสิ่งแวดล้อมโลก ขยะเครื่องสำอางสู่การรีไซเคิลเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก

วันสิ่งแวดล้อมโลก ตรงกับวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี ซึ่งปัญหาขยะเป็นอีกปัญหาใหญ่ ซึ่งอุตสาหกรรมต่างๆ ได้หันมาให้ความสำคัญกับปัญหาขยะโดยเฉพาะขยะพลาสติก และวงการความงามเป็นอีกอุตสาหกรรมที่สร้างขยะจากบรรจุภัณฑ์ โดยรายงานจากองค์กร Zero Waste เผยว่าปี 2018 มีขยะจากบรรจุภัณฑ์ความงาม สกินแคร์ เครื่องสำอางมากถึง 120 พันล้านยูนิตจากทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้นเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้

 

องค์กรสำรวจเทรนด์ทั่วโลก Mintel เผยว่าเทรนด์ความงามแบบรักษ์โลกสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียลที่คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และมีแนวโน้มที่สนับสนุนใช้เครื่องสำอางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โปร่งใส มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ

ปัจจุบันมีเครื่องสำอางรีฟิลเพิ่มขึ้น และยังมีการใช้วัสดุที่รีไซเคิล สนับสนุนการแยกขยะนำขวดสกินแคร์มาทิ้งที่จุดรับ เพื่อลดการสร้างขยะและใช้มรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้แบรนด์ต่างๆ ยังหันมาสนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียวที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้ให้ชุมชน เรามาดูกันดีกว่ามามีแบรนด์ความงามไหนบ้าง?

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

• สวยได้ไม่ทำร้ายโลก! ลิสต์ Eco-Friendly Beauty Brands เครื่องสำอางรักษ์โลก

• 5 มิ.ย.วันสิ่งแวดล้อมโลก ส่องดูแบรนด์ไหน? แเอคชั่นรักษ์โลก !

• 4 สารเคมีในเครื่องสำอางที่ทำร้ายผิวและสิ่งแวดล้อม

Caudalie 

แบรนด์ความงามหัวใจรักษ์โลกจากฝรั่งเศส ที่ออกแบบรีฟิลแคปซูลในกระปุก The Cream ของ Premier Cru ให้สามารถเปลี่ยนได้ง่ายและยังสามารถรีไซเคิลได้ทั้งแคปซูล  รีฟิลแคปซูลถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับ refillable jar เพื่อการเก็บรักษาที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญแบรนด์นี้ยังให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเป็นการลดปริมาณขยะ แถมยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทาง โดยได้มีโครงการ 100%  Plastic Collect ที่เริ่มขึ้นในประเทศไทย เก็บขยะพลาสติกในท้องทะเลให้ได้ 646 ตัน โดยพลาสติกที่ถูกเก็บมาและรีไซเคิลในปี 2020 จะเท่ากับ 100% ของพลาสติกของแบรนด์ที่ใช้ในปี 2019 ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มต้นในชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะหลายพื้นที่ในประเทศไทย

Fenty Beauty

Fenty Beauty แบรนด์ความความของศิลปินสาวชื่อดัง อย่าง Rihanna ที่สะท้อนแนวคิดที่ง่าย สะดวก ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม พร้อมด้วยหลัก 3R ที่เป็นหัวใจของแบรนด์ที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ได้แก่ Reduce ลดการใช้วัสดุที่เกินจำเป็น, Reuse สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ และ Recycle ทำผลิตภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิล (PCR)

Thayers

โทนเนอร์ชื่อดังระดับตำนานที่มีความเป็นมากว่า 200 ปี นอกจากให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติแล้ว ในส่วนของกระบวนการผลิตยังคงความคลาสสิคและใช้วิธีการผลิตดั้งเดิม จึงทำให้คงไว้ด้วยสารธรรมชาติแท้ มากกว่า 195% นอกจากนี้ Thayers ยังใช้วัสดุที่สามารถกรัไซเคิลได้ คือ Polyethylene Terephthalate ซึ่งขวด PET หรือ PETE เป็นขวดพลาสติกใส มีความแข็งแรง ทนแรงกระแทกได้ดี มองทะลุได้ มีสัญลักษณ์ PET 1 หรือ PETE 1 ใต้ขวด สามารถนำไปรีไซเคิลต่อเป็นเส้นใยสำหรับทำเสื้อกันหนาว พรม และใยสังเคราะห์ได้ 

The Body Shop

The Body Shop เป็นอีกแบรนด์ที่มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีการดีไซน์ร้านแบบ Visibly Sustainable Store โดยใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ พลาสติกรีไซเคิลเพื่อลดการทำร้ายและทำลายธรรมชาติที่เราอาจทิ้งไว้เบื้องหลังโดยไม่รู้ตัว เช่น ซุ้มทำจากอะลูมิเนียม วัสดุที่ใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุชนิดอื่น ซึ่งวัสดุเหล่านี้ยังสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุรีไซเคิลต่อได้ นอกจากนี้ยังมีจุดรับแพ็กเกจเครื่องกสำอางเพื่อการรีไซเคิล โดยสามารถนำวัสดุ บรรจุภัณฑ์ต่างๆ เช่น ขวดหรือซองบรรจุภัณฑ์ กระปุกของผลิตภัณฑ์ทั้งแบรนด์ The Body Shop และแบรนด์อื่นๆ ที่ใช้หมดแล้ว นำมาใส่ในกล่องที่อยู่ในมุมรับวัสดุรีไซเคิลภายในร้าน เพื่อนำกลับไปเข้าสู่กระบวนการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง