SHORT CUT
การเจรจาข้อตกลงแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนล่ม หลังทรัมป์เรียกร้องกรรมสิทธิ์ 50% ของแหล่งแร่สำคัญ ยูเครนกังวลเสียเปรียบทางเศรษฐกิจ
วานนี้ (28 ก.พ. 68) การไปเยือนทำเนียบขาวของ "โวโลดิมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน เพื่อเข้าเจรจาข้อตกลงแบ่งทรัพยากรแร่ธาตุกับ "โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ กลับล่มไม่เป็นท่า เมื่อการเจรจาเป็นไปอย่างดุเดือด และจบลงด้วยการออกจากทำเนียบขาว โดยไม่มีการลงนามตามที่วางแผนไว้
สหรัฐฯ และยูเครน จะร่วมจัดตั้งกองทุน เพื่อการฟื้นฟูประเทศยูเครน โดยยูเครนจะสงวนรายได้ร้อยละ 50 จากการออกใบอนุญาตในการขุดเจาะแร่ธาตุและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อสมทบให้กับกองทุน
แต่เป็นฝ่ายสหรัฐฯ ที่สร้างแรงกดดันในข้อตกลงนี้ ในตอนแรก สหรัฐฯ เสนอในข้อตกลงว่า ยูเครนจะใช้ “ธาตุหายากและสิ่งอื่นๆ” มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อแลกกับความช่วยเหลือจากสหรัฐ
แต่ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอให้ยูเครนมอบกรรมสิทธิ์การควบคุมแหล่งแร่ธาตุสำคัญร้อยละ 50 ให้แก่สหรัฐเพื่อชดเชยสิ่งที่ทางการเคียฟได้รับจากวอชิงตันนับตั้งแต่เกิดการปะทะกับรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022
ผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามการเจาจรนี้อย่างใกล้ชิดให้ความเห็นว่า สหรัฐฯ มองดีลนี้ในมุมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเท่านั้น และสหรัฐฯ ตั้งเป้าจะใช้ทรัพยากรแร่ธาตุในยูเครนอย่างเต็มที่ ซึ่งยูเครนมีลิเทียม และแร่ธาตุสำคัญมากแค่ไหน จะขยายในลำดับต่อไป
ทางฟากของยูเครน ถูกบังคับกลาย ๆ ให้ยอมรับข้อตกลงนี้ ทั้งยังยอมรับว่าการยอมลงนามข้อตกลงนี้จะทำให้เกิดความเสียเปรียบทางเศรษฐกิจในระยะยาวหลายด้าน เพราะเดิมที ทางการเคียฟหวังว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างความมั่นคงที่ใหญ่กว่า เช่น สหรัฐสนับสนุนยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของ NATO หรือการค้ำประกันความมั่นคงของยูเครนในรูปแบบอื่น
แต่จากคำพูดของทรัมป์ก็ยืนยันได้แล้วว่า สหรัฐฯ ไม่มีแผนที่จะสนับสนุนยูเครนในเรื่องความมั่นคง ทั้งยังโบ้ยไปให้สหภาพยุโรปแทน อนึ่งว่า เห็นได้ชัดถึงงนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ มีแร่ลิเทียมอยู่ประมาณ 8.3 ล้านตัน ในแง่นี้สหรัฐฯ เสียเปรียบจีน ซึ่งถือครองปริมาณแร่ลิเทียมสำรองของโลกอยู่ 16.5%
และจีนสามารถสกัดแร่ลิเทียมอยู่ 60% ของลิเทียมที่มีอยู่ทั้งหมดในโลก และมีความสามารถในการผลิตแบตเตอรีลิเทียมไอออนประมาณ 75% ของโลก
ประการแรกสหรัฐฯ กังวลว่าจีนจะมีอำนาจควบคุมการจัดหาลิเทียม และแร่ธาตุอื่น ๆ เพราะลิเทียมนั้นกำลังเป็นที่ต้องการของโลก โดยข้อมูลจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) โลกจะต้องการลิเทียมมากขึ้น 8 เท่าในปี 2040 เมื่อเทียบกับปี 2023
ประการที่สอง สหรัฐฯ กำลังชักชวนให้บริษัทเหมืองแร่ผลิตลิเทียมภายในประเทศมากขึ้น อันเห็นได้จาก กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะให้เงินกู้แก่บริษัทอัลเบมาร์ล (Albemarle) เพื่อเปิดเหมืองคิงส์เมาเทน ในรัฐแคโรไลนาขึ้นมาใหม่ เพื่อดำเนินการจัดหาลิเทียมสำหรับผลิตแบตเตอรีให้กับกองทัพ
เหตุฉะนี้ ยูเครนในฐานะแหล่งลิเทียม และแร่ธาตุสำคัญ จึงกลายเป็นเป้าหมายของสหรัฐฯ ไปโดยปริยาย และโดนัลด์ ทรัมป์ ก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนใจแหล่งแร่ธาตุหายากของยูเครนมากที่สุด และมีการรายงานว่าข้อตกลงแร่ธาตุนี้ ทรัมป์ก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก
ที่มา: Al jazeera, Independent
ข่าวที่เกี่ยวข้อง