SPRiNG ชวนอ่าน “คุณภาพแห่งชีวิต ปฏิทินแห่งความหวัง จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน" บทความโดย ป๋วย อึ้งภากรณ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาธรรมศาสตร์ และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวถึงคุณภาพชีวิตที่มนุษย์พึงมี ตั้งแต่เกิดจนวายชนม์
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองใหญ่ที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก ผู้คนตื่นมาพบกับ ‘ผ้าห่มฝุ่น’ ที่ห่อหุ้มเมืองหลวงแห่งนี้ไว้ ขณะที่จังหวัดอื่น ๆ การสัญจรบนท้องถนนกลายเป็นเรื่องยากลำบาก จากการที่ฝุ่นบดบังวิสัยทัศน์
สภาวะเช่นนี้ ทำให้วาทะของ ‘ป๋วย อึ้งภากรณ์’ บุคคลสำคัญของไทย และโลก ถูกหยิบกลับมาพูดถึงในแวดวงสังคมอีกครั้ง แต่หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุใดป๋วยจึงเขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นมา ถึงตรงนี้ คงต้องพาผู้อ่านทุกท่านหมุนเข็มนาฬิกากลับไปในปี พ.ศ. 2516
นี่คือหนึ่งในงานชิ้นสำคัญของ ป๋วย อึ้งภากรณ์ อันเป็นข้อเขียนสุดแสนจะเรียบง่าย แต่ทรงพลังอย่างยิ่ง บทความชิ้นนี้ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกใน ‘สังคมศาสตร์ปริทัศน์’ ปีที่ 11 ฉบับที่ 10 ตุลาคม 2516 ‘สุชาติ สวัสดิ์ศรี’ เป็นบรรณาธิการ
บทความชิ้นนี้กล่าวถึง ‘รัฐสวัสดิการ’ และ ‘คุณภาพชีวิต’ ที่มนุษย์สมควรได้รับในทุก ๆ ด้านตั้งแต่เกิดจนวายชนม์ อันปรากฏเนื้อหาบางส่วนดังนี้
“เมื่อผมอยู่ในครรภ์ของแม่ ผมอยากให้แม่ได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์ และได้รับการเอาใจใส่และบริการอันดีในเรื่องสวัสดิการของแม่และเด็ก
“ในระหว่าง 2-3 ขวบแรกของผม ซึ่งร่างกายและสมองผมกำลังเติบโตในระยะที่สำคัญ ผมต้องการให้แม่ผมกับตัวผมได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์
“ผมต้องการไปโรงเรียน พี่สาวหรือน้องสาวผมก็ต้องการไปโรงเรียน จะได้มีความรู้หากินได้ และจะได้รู้คุณธรรมแห่งชีวิต ถ้าผมสติปัญญาเรียนชั้นสูงๆ ขึ้นไป ก็ให้มีโอกาสเรียนได้ ไม่ว่าพ่อแม่ผมจะรวยหรือจน จะอยู่ในเมืองหรือชนบทแร้นแค้น
“เมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว ผมต้องการงานอาชีพที่มีความหมาย ทำให้ได้รับความพอใจว่า ตนได้ทำงานเป็นประโยชน์แก่สังคม
“บ้านเมืองที่ผมอาศัยอยู่ จะต้องมีขื่อมีแป ไม่มีการข่มขู่ กดขี่ หรือประทุษร้ายกัน
“ผมต้องการสุขภาพอนามัยอันดี และรัฐบาลจะต้องให้บริการป้องกันโรคแก่ผมอย่างฟรี กับบริการการแพทย์ รักษาพยาบาลอย่างถูกอย่างดี เจ็บป่วยเมื่อใดหาหมอหาพยาบาลได้สะดวก
“ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์สำหรับหายใจ น้ำบริสุทธิ์สำหรับดื่ม
“เมื่อจะตาย ก็ขออย่าให้ตายอย่างโง่ๆ อย่างบ้าๆ คือตายในสงครามที่คนอื่นก่อให้เกิดขึ้น ตายในสงครามกลางเมือง ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ ตายเพราะน้ำหรืออากาศเป็นพิษ หรือตายเพราะการเมืองเป็นพิษ”
อดีตผ่านไปแล้ว คุณภาพชีวิตที่ ‘ป๋วย อึ้งภากรณ์’ ยังคงเป็นความหวังของพวกเราเช่นกันในฐานะประชาชน ใครบ้างไม่อยากมี ‘อากาศบริสุทธิ์สำหรับหายใจ’ ใครบ้างไม่อยากมี ‘น้ำบริสุทธิ์สำหรับดื่ม’
ถึงตรงนี้ ทุกคนต้องครุ่นคิดเอาเองแล้วว่า ‘คุณภาพชีวิต’ หรือ ‘รัฐสวัสดิการ’ จากข้อเขียนของ ป๋วย อึ้งภากรณ์ ที่ล่วงผ่าน 50 ปี เกิดขึ้นจริงหรือยัง...
ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2459 ครอบครัวเป็นชาวจีน เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ในปี 2477 เป็นนักศึกษารุ่นแรก
ในปี 2484 เกิดสงครมโลกครั้งที่ 2 ณ เวลานั้น ป๋วยกำลังศึกษาอยู่ที่ วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (LSE) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์และการคลัง ช่วงนี้เอง ที่ป๋วยได้เป็นหนึ่งในสมาชิกขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นขึ้น หรือที่รู้จักกันในนาม "เสรีไทย"
ป๋วย อึ้งภากรณ์ เคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาธรรมศาสตร์ และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งยังเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาการทำงานภาครัฐ (Government Service) เมื่อ พ.ศ. 2508 และได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกในวาระ 100 ปีชาตกาล เมื่อ พ.ศ. 2559
ป๋วยถึงแก่อนิจกรรมด้วยวัย 83 ปี เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร สิ้นสุดชีวิตของชายผู้เขียนบทความสั่นสะเทือนสังคม "คุณภาพแห่งชีวิต ปฏิทินแห่งความหวัง จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน"
ที่มา: คุณภาพแห่งชีวิต ปฏิทินแห่งความหวัง จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง