สภาพอากาศที่หนาวเย็นมากกว่าปกติในรอบหลายปี ไม่ได้ส่งผลต่อมนุษย์อย่างเดียวเท่านั้น แม้แต่สัตว์ทะเลอย่างพะยูนยังทนไม่ไหว จนถูกพบเห็นว่าพวกมันพยายามมาหลบภัยอยู่ใกล้ๆ โรงไฟฟ้า ที่มีการปล่อยน้ำอุ่นลงสู่ทะเล
มีรายงานพบเห็นฝูงพะยูนที่มารวมตัวกันบริเวณใกล้กับโรงไฟฟ้าในฟลอริดาของสหรัฐฯ เป็นจำนวนหลายสิบตัว จนทำให้บริเวณดังกล่าวกลายเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางคำถามที่ว่า ทำไมพวกมันต้องมารวมตัวกันที่นี่
ราเชล แชงเกอร์ ผู้จัดการฝ่ายการศึกษาของทะเลสาบแมนนาที เปิดเผยว่า พะยูนเป็นสัตว์สายพันธุ์พิเศษอีกหนึ่งชนิดที่สามารถพบได้ในแหล่งน้ำของฟลอริดา ซึ่งเป็นสัตว์ที่ได้รับการจับตาอย่าใกล้ชิดหลังมีจำนวนประชากรลดลง อีกทั้งมันยังเป็นสัตว์ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว การกระทำของพวกมันจึงเป็นเหมือนตัวบ่งชี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้น
โดยปกติแล้ว ภัยคุกคามหลักๆ ที่พะยูนหล่านี้ต้องเผชิญคือการถูกเรือพุ่งเข้าขน แต่ความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็นับเป็นภัยคุกคามร้ายแรงเช่นกัน โดยเฉพาะน้ำทะเลที่เย็นจัดเนื่องจากวิกฤติอากาศเย็นสุดขั้วที่เป็นผลมาจาก Polar Vortex ทำให้พวกมันต้องว่ายน้ำมาขอหลบภัยในน้ำอุ่นที่ถูกระบายออกมาจากโรงไฟฟ้า
แชงเกอร์ยืนยันว่า น้ำอุ่นที่ถูกปล่อยออกมานั้นมีความปลอดภัยต่อพะยูน สัตว์ทะเล และระบบนิเวศแน่นอน เนื่องจากเป็นน้ำทะเลที่ถูกดูดเข้ามาจากอ่าวและนำไปใช้ในกระบวนการที่ทำให้โรงงานมีอุณหภูมิเย็นลง แต่ไม่มีการเติมสารเคมีหรือสารอื่นๆ น้ำที่ปล่อยออกมาจึงเป็นน้ำทะเลทั่วไป เพียงแต่มีอุณหภูมิอุ่นกว่าน้ำทะเลบริเวณอื่นเท่านั้น
โดยจำนวนพะยูนที่มาอยู่ใกล้โรงไฟฟ้าในตอนนี้มีราวๆ 85 ตัว เมื่อพวกมันเริ่มหิวก็จำเป็นต้องเดินทางออกไปหาอาหารท่ามกลางอากาศหนาวในบางช่วงเวลา เมื่ออิ่มแล้วก็จะกลับมาพักผ่อนที่เดิมเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นอีกครั้ง
ตามรายงานของคณะกรรมการอนุรักษ์ปลาและสัตว์ป่าแห่งฟลอริดา พบว่ามีพะยูนที่ตายไปมากกว่า 2000 ตัว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความอดอยาก เพราะมลพิษที่ถูกปล่อยจากฟาร์ม เมือง และแหล่งอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ทำลายหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพวกมันจนหมด ซึ่งภาวะขาดแคลนหญ้าทะเลทำให้พะยูนหลายตัวขาดสารอาหารจนไม่สามารถสืบพันธุ์ได้