SHORT CUT
SCB ฉลองครบรอบ 117 ปี ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การเป็น “ธนาคาร Net Zero” พร้อมเผย 3 กลยุทธ์หลัก ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ชูไฮไลท์ “สินเชื่อลด PM 2.5” หนุนธุรกิจสีเขียว สร้าง “เมืองอัจฉริยะ”
SCB ร่วมกับโพสต์ทูเดย์, สปริงนิวส์ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดงานสัมมนา "Thailand Smart City 2025" ภายใต้หัวข้อ "การจัดการเมืองอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีและ AI เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต"
โดย คุณ ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth จาก SCB ได้ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยี การรักษาสิ่งแวดล้อม และการบรรลุเป้าหมาย Net Zero เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทุกคน
ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำด้าน Net Zero Bank โดยได้กำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 พร้อมเผย 3 กลยุทธ์หลัก "LIVE SUSTAINABLY" ประกอบไปด้วย
Sustainable Banking ส่งเสริมการเงินอย่างยั่งยืน SCB นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลาย ครอบคลุมสินเชื่อ ตราสารหนี้ และสัญญาอนุพันธ์ ที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจ ให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero
ผสานพลังเทคโนโลยี นำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาใช้ในการวิเคราะห์สินเชื่อ บริหารจัดการความเสี่ยง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สินเชื่อลด PM 2.5
Corporate Practice Excellence มุ่งสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2030 SCB มุ่งมั่นปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานภายใน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ยกระดับองค์กรด้วยเทคโนโลยี นำระบบดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ พัฒนาเทคโนโลยี AI และเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
Better Society เสริมสร้างความเข้มแข็งให้สังคม SCB ส่งเสริมความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ SCB คือการเปิดตัว "สินเชื่อลด PM 2.5" มุ่งเป้าสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปซื้อรถตัดอ้อยแทนการเผา ลดมลพิษทางอากาศ และช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันอย่างยั่งยืน
SCB ตระหนักถึงความสำคัญของความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero และพร้อมที่จะเป็น “พันธมิตรที่เชื่อถือได้” สนับสนุนลูกค้า และสังคมไทย ให้ก้าวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
AI-First Bank ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จะมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยมี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
โดยกลยุทธ์นี้แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ
Disruptive : เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานด้วยเทคโนโลยี AI เช่น การใช้ AI ในการพิจารณาสินเชื่อ (Underwriting) การติดตามหนี้ (Collection) และรูปแบบการทำงานแบบใหม่ (New Working Model)
Daily : เป็นการนำ AI มาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น Chatbot, My Alert และ Copilot ซึ่งเป็น AI ที่ช่วยงานด้านต่างๆ เช่น EIC, Legal, CRM
นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้น AI (AI Culture) และการใช้ Digital Employee เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
แนวทางการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ภายในปี 2050 ซึ่งประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ดังนี้
ความมุ่งมั่นของ SCB ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการสนับสนุนลูกค้า พันธมิตร และสังคม ให้สามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้สำเร็จ
ความมุ่งมั่นของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 โดยยึดหลักวิทยาศาสตร์ ผ่านมาตรฐาน SBTi (Science Based Targets initiative) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
มาตรฐาน SBTi เกิดจากความร่วมมือขององค์กรระดับโลก เช่น UNGC, WWF และ CDP เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจในการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก
กลยุทธ์ในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) โดยมุ่งเน้นที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากพอร์ตสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งในปี 2023 มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด 6.7 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
กลยุทธ์ของ SCB คือการมุ่งเน้นลดการปล่อยก๊าซ GHG ในภาคส่วนที่มีการปล่อยสูงที่สุด เช่น Corporate Power และ SME โดยอาจใช้มาตรการต่างๆ เช่น
โดยการนำมาตรวัด SDA และ ITR มาใช้ในการบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero
บทบาทของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะ "ผู้นำ" ในการผลักดันกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย ให้ก้าวสู่มาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก โดยใช้ Sustainability-linked financial products
Sustainability-linked financial products เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น สินเชื่อ ตราสารหนี้ และสัญญาอนุพันธ์ ที่มีเงื่อนไขเชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของลูกค้า โดย SCB จะให้แรงจูงใจทางการเงิน เช่น ลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานหมุนเวียน การจัดการของเสีย และการส่งเสริมความหลากหลาย
ยกตัวอย่าง 3 บริษัทชั้นนำของไทย ที่ใช้ Sustainability-linked financial products ของ SCB ดังนี้
Asset World : บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ได้รับ Sustainability Linked Loan และ Green Loan วงเงิน 20,000 ล้านบาท
GC : บริษัทปิโตรเคมี ได้รับ Sustainability Linked Loan วงเงิน 15,000 ล้านบาท และ Sustainability Linked Swap
Thai Oil : บริษัทโรงกลั่นน้ำมัน ได้รับ Sustainability Linked Swap และเงินฝาก (Sustainable Deposit)
ความสำเร็จของ SCB ในการขับเคลื่อนการเงินเพื่อความยั่งยืน อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 124,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2566) จากเป้าหมาย 150,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ SCB ในการสนับสนุนลูกค้า ให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลาย
SCB แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการเป็นผู้นำด้าน Net Zero Bank ด้วยการกำหนดเป้าหมาย และกลยุทธ์ที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม พร้อมให้ความสำคัญกับการพัฒนา และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero อย่างครอบคลุม
โดยมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และ Digital Solutions เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า พร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน