svasdssvasds

'มหาสมุทรใต้ดิน' แหล่งน้ำที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน 700 กม. ต้นกำเนิดน้ำบนโลก

'มหาสมุทรใต้ดิน' แหล่งน้ำที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน 700 กม. ต้นกำเนิดน้ำบนโลก

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ "มหาสมุทรใต้ดิน" ขนาดมหึมา ซึ่งพลิกผันความเข้าใจของมนุษย์เกี่ยวกับทฤษฏีต้นกำเนิดของน้ำบนโลกใบนี้

SHORT CUT

  • นักวิทยาศาสตร์พบมหาสมุทรที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน ซึ่งมีปริมาณน้ำมากกว่ามหาสมุทรบนพื้นผิวโลก
  • นับเป็นการพลิกผันทฤษฎีเกี่ยวกับต้นกำเนิดของน้ำ ซึ่งเคยคาดกันว่ามาจากอุกกาบาตที่ชนโลก
  • แหล่งน้ำแห่งนี้ยังอาจมีบทบาทสำคัญช่วยอนุรักษ์สมดุลของน้ำบนพื้นผิวในอนาคต

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ "มหาสมุทรใต้ดิน" ขนาดมหึมา ซึ่งพลิกผันความเข้าใจของมนุษย์เกี่ยวกับทฤษฏีต้นกำเนิดของน้ำบนโลกใบนี้

แหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใด้ติน

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหลักฐานที่ชี้ว่ามี 'มหาสมุทรใต้ดิน' ขนาดมหึมา ซึ่งมีปริมาณน้ำมากกว่ามหาสมุทรบนพื้นผิวโลกถึง 3 เท่า ซ่อนอยู่ใต้พื้นผวโลกลึกลงไปกว่า 700 กิโลเมตร และการค้นพบครั้งใหญ่นี้นอกจากจะสร้างความตื่นตะลึงต่อนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกแล้ว ยังสามารถพลิกผันทฤษฎีเกี่ยวกับต้นกำเนิดของน้ำ และอาจทำนายถึงเสถียรภาพของน้ำบนโลกในระยะยาวได้ด้วย

\'มหาสมุทรใต้ดิน\' แหล่งน้ำที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน 700 กม. ต้นกำเนิดน้ำบนโลก

แหล่งน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มหินสีน้ำเงินที่เรียกว่าริงวูดไดต์ (ringwoodite) เป็นชั้นหินที่ตั้งอยู่ระหว่างพื้นผิวและแกนกลางของโลก มีความสามารถดูดซับและกักเก็บน้ำไว้ภายใน ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ให้ความเชื่อถือต่อทฤษฎีที่ว่าน้ำในมหาสมุทรอาจจะค่อยๆ ไหลออกมาจากภายในโลก แทนที่จะเกิดจากการชนของดาวหางอย่างที่คาดการณ์กันก่อนหน้านี้ 

สตีเวน จาค็อบเซน หัวหน้านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ในรัฐอิลลินอยส์ กล่าวว่า "นี่เป็นหลักฐานที่จับต้องได้ว่าน้ำบนโลกมาจากภายใน" ซึ่งอาจช่วยอธิบายขนาดที่สอดคล้องกันของพื้นผิวมหาสมุทรตลอดหลายล้านปีได้

ผลกระทบต่อวัฏจักรน้ำของโลก

การค้นพบแหล่งน้ำใต้ดินขนาดมหึมานี้มีความหมายอย่างลึกซึ้งต่อความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฏจักรของน้ำในโลก ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามหาสมุทรใต้ดินแห่งนี้อาจมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของแหล่งน้ำผิวดินด้วย พวกเขาเชื่อว่าแหล่งน้ำทั้งสองมีการหมุนเวียนระหว่างกันมาตลอก

เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบระดับโลกของการค้นพบนี้ได้ดีขึ้น นักวิจัยวางแผนที่จะรวบรวมข้อมูลแผ่นดินไหวเพิ่มเติมจากทั่วโลก และยังคงพยายามทำการสำรวจให้ลึกลงไป โดยมีเป้าหมายเพื่อพิจารณาว่าการหลอมละลายของเนื้อโลกเป็นปรากฏการณ์ทั่วไปหรือมีลักษณะเฉพาะในบางภูมิภาคหรือไม่ และคาดว่าผลลัพธ์ที่ได้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันล้ำค่าเกี่ยวกับวัฏจักรน้ำของโลกและเสถียรภาพในระยะยาว

ที่มา: dailygalaxy