SHORT CUT
รู้หรือไม่ว่า กว่าจะพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ แวะพักแคมป์ทั้ง 4 จุด ในความสูง 8,848 เหนือระดับน้ำทะเล แถมอากาศหนาวติดลบ จึงเกิดปัญหาว่า นักปีนเขาปวดท้องถ่ายเมื่อไหร่ก็ปล่อยไว้ตรงนั้น ล่าสุด เนปาลออกกฎใหม่แล้ว
เนปาลออกกฎใหม่ นักปีนเขาทุกคนต้องเครื่องติดตามและถุงย่อยสลายได้เพื่อเก็บอุจจาระของตัวเองลงมาทิ้งที่เบสต์แคมป์ หลังที่ผ่านมา “มูลมนุษย์” นั้นส่งกลิ่นกระแทกจมูก แถมทำให้ภูเขามีทัศนะที่ไม่น่ามอง
เรื่องนี้มี 2 ประเด็น อย่างแรกคือเรื่องความปลอดภัย ในปี 2023 ที่ผ่านมา มีนักปีนเขาเสียชีวิต 18 คน ซึ่งศพของ 5 คนในนั้นปัจจุบันก็ยังหาไม่เจอ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเนปาลจึงบังคับให้นักปีนเขาทุกคนติดเครื่องติดตาม เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุจะสามารถหาตัว - เข้าถึงตัวได้ง่ายกว่า
อย่างที่สองคือเรื่อง “อุจจาระ” ด้วยสภาพแวดล้อมบนยอดเขาที่เย็นยะเยือก -42 องศา ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดที่เคยบันทึกไว้ อุจจาระที่มนุษย์ขับถ่ายทิ้งไว้บนเขาจึงไม่ย่อยสลาย และถูกแช่แข็งเป็นไอศกรีมไว้แบบนั้น
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการบังคับกฎข้อที่สองคือให้พกถุงเก็บอุจจาระของตัวเองลงมาเพื่ออุดรอยรั่วของปัญหานี้ เว็บไซต์ BBC รายงานว่า นักปีนเขาขับถ่ายเฉลี่ยวันละ 250 กรัม และจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อพิชิตยอดเขา
ขณะเดียวกัน องค์กร SPCC ระบุว่า บนเขาเอเวอเรสต์น่าจะมีอุจจาระรวม ๆ แล้ว 3 ตัน (ตั้งแต่แคมป์ที่ 1 - 4) เพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้ เทศบาลปาซางลามูของเนปาลซึ่งเป็นผู้ดูแลภูเขาเอเวอเรสต์จึงจัดซื้อถุงอุจจาระย่อยสลายได้จำนวน 8,000 ใบ
ถุงอุจจาระดังกล่าวเป็นถุงที่ถูกผลิตขึ้นเป็นพิเศษ โดยมีส่วนผสมของสารเคมีและผงแป้งซึ่งช่วยทำให้อุจจาระแข็งตัว แถมช่วยดับกลิ่นอุจจาระได้อย่างหมดจด
ถือเป็น movement ที่ดี สำหรับภารกิจทำความสะอาดภูเขาเอเวอเรสต์ให้กลับมาคลีนอีกครั้ง แต่ขณะเดียวกันนักปีนเขาก็มองว่าคงเข้าลูปเดิม จะออกกฎอะไรมาก็เหมือนเดิม
เหตุเพราะว่า เจ้าหน้าที่รัฐอู้งาน ไม่ยอมเดินทางไปกับคณะสำรวจ ซึ่งจริง ๆ แล้วเจ้าหน้าต้องเดินทางไปด้วย “เจ้าหน้าที่รัฐไม่เคยอยู่ที่เบสแคมป์เลย” นายกเทศบาลเขตปาซางลามู กล่าว
"แต่ตอนนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง เราจะเปิดสำนักงานประสานงานและทำให้แน่ใจว่ามาตรการต่าง ๆ ที่มีขึ้นใหม่ อย่างการให้นักปีนเขานำถุงอุจจาระกลับลงมาด้วย สามารถบังคับใช้ได้จริง"
ที่มา: France 24
ข่าวที่เกี่ยวข้อง