ภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ชื่อว่า A23a ถูกพบลอยอยู่ในมหาสมุทรแอนตาร์กติกหลังจากแยกตัวออกจากชั้นน้ำแข็ง Filchner-Ronne ในแอนตาร์กติกาตะวันตกเมื่อปี 1986 โดยพื้นที่ของภูเขาน้ำแข็งยักษ์มีขนาดใหญ่มากกว่า 2 เท่าของ กทม.
ภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก A23a ถูกพบลอยอยู่ในมหาสมุทรแอนตาร์กติกหลังจากตัวออกจากแผ่นดินแม่ ซึ่งภาพของภูเขาน้ำแข็งยักษ์ถูกถ่ายโดยช่างภาพธรรมชาติ Rob Suisted
ภูเขาน้ำแข็ง A23a เป็นภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่แยกตัวออกมาจากแนวชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกาในปี 1986 แต่กลับแน่นิ่งแทบจะในทันทีอยู่ในทะเลแวดเดลล์ และกลายเป็นเกาะน้ำแข็ง โดยภูเขาน้ำแข็งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของสถานีวิจัยของสหภาพโซเวียตด้วย และหลังจากที่ภูเขาน้ำแข็งยักษ์หยุดนิ่งมานาน
ตามภาพถ่ายดาวเทียมตอนนี้ภูเขาน้ำแข็งเคลื่อนตัวอีกครั้งและกำลังลอยผ่านปลายด้านเหนือของคาบสมุทรแอนตาร์กติก โดยได้รับความช่วยเหลือจากลมและกระแสน้ำที่รุนแรง
ภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก A23a ขณะนี้มีพื้นที่ 4,000 ตารางกิโลเมตร หรือขนาดใหญ่มากกว่ากรุงเทพฯ เกิน 2 เท่า มีความสูงถึง 400 เมตร จุดสูงสุดยาวเป็น 2 เท่าของความยาว เรือสำรวจมองเห็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งยักษ์
ภูเขาน้ำแข็ง A23a แยกตัวออกจากทะเลแวดเดลล์ หิ้งน้ำแข็ง Filchner เมื่อ 38 ปีที่แล้ว ในที่สุดก็เป็นอิสระและลงสู่มหาสมุทรใต้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ สิ่งนี้ดำเนินต่อไปและต่อเนื่องเป็นระยะทาง 40 ไมล์ทะเล
ภูเขาน้ำแข็งมีความสำคัญกับระบบนิเวศเป็นอย่างมาก และถือเป็นผู้ให้ชีวิต และเป็นจุดกำเนิดของกิจกรรมมากมายทางชีววิทยา หากภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ อย่าง A23a ภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลกละลายลง จะปล่อยฝุ่นผงแร่ธาตุที่ถูกกักเก็บมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งที่ไถครูดกับหินดานของทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งฝุ่นผงเหล่านั้นเป็นแหล่งสารอาหารของสิ่งมีชีวิตในห่วงโซ่อาหารในมหาสมุทร
ขณะเดียวกันภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ก็อาจสร้างปัญหาต่อชีวิต เช่นแมวน้ำ เพนกวิน รวมถึงนกทะเลชนิดอื่น ๆ อีกหลายล้านตัวที่อาศัยและแพร่พันธุ์อยู่ในบริเวณนั้น เพราะขนาดอันมหึมาของภูเขาน้ำแข็งอาจไปกีดขวางเส้นทางการหาอาหารของสัตว์ทะเล
ที่มา : Reuters / กองหอสมุดและสารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เนื้อหาที่น่าสนใจ :