ประเทศรวันดา เล็งปลูกต้นไม้ให้ได้ 63 ล้านต้นก่อนสิ้นปี 2566 พร้อมดันโปรเจกต์ Green Hospital หรือ โรงพยาบาลสีเขียว ด้วยการปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้นรอบสถานพยาบาล หวังสร้างอากาศให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศ
พื้นที่สีเขียวนับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ภาครัฐของหลายประเทศทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะสามารถสร้างอากาศสะอาด และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อให้ประชาชนออกมาใช้ชีวิตในสาธารณะได้
ล่าสุด ซาบิน ซันซิมานา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ประเทศรวันดา ประกาศโครงการรักษ์โลก เตรียมปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น บริเวณใกล้กับสถานพยานบาลทั่วประเทศ หวังสร้างอากาศสะอาดให้กับสถานพยาบาล พร้อมตั้งเป้าใหญ่ ปลูกต้นไม้ให้ได้ 63 ล้านต้นก่อนสิ้นปีนี้
รายละเอียดโครงการ
ซาบิน ซันซิมานา ได้โพสต์ลง x เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ Green Hospital หรือ โรงพยาบาลสีเขียว โดยวัตถุประสงค์ของโครงการคือ ต้องการเปลี่ยนสถานพยาบาลทั่วประเทศ ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อมุ่งเน้นประโยชน์ 2 ด้านคือ สิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน
โรงพยาบาลสีเขียวที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวมีทั้งหมด 56 แห่ง ศูนย์สุขภาพอีก 514 แห่ง และอนามัยอีกกว่า 1,252 ทั่วประเทศ
“ขณะนี้ โครงการดังกล่าวได้เริ่มต้นปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 20,000 ต้นทั่วประเทศ แต่เส้นทางยังอีกยาวไกล เพราะเราตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2 ล้านต้น” ซาบิน ซันซิมานากล่าว
ทำไมต้องปลูกต้นไม้ใกล้กับสถานพยาบาล?
ซาบิน ซันซิมานา ให้เหตุผลว่า สถานพยาบาลที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเขียว สามารถช่วยให้ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลได้เร็วกว่าที่แพทย์แนะนำ 2 วัน คาดต้นไม้ช่วยบรรเทาความเครียด แถมสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้กับสถานพยาบาล
ก่อนหน้านี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศรวันดาได้นำร่องในการปลูกต้นไม้รอบสถานพยาบาลไปก่อนแล้ว ที่ Bugesera ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอของจังหวัดทางฝั่งตะวันออกของประเทศรวันดา
ภายในสิ้นปีนี้ ประเทศรวันดาตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าต้องปลูกต้นไม้ในประเทศให้ได้63 ล้านต้น เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และช่วยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ในปี 2022 ประเทศรวันดาปลูกต้นไม้ทั่วประเทศได้ประมาณ 52 ล้านต้น รวันดามีเนื้อที่ทั้งหมด 26,338 ตารางกิโลเมตร เทียบเท่ากับจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีเนื้อที่ 22,848 ตารางกิโลเมตร
ในปีนี้ หากรวันดาสามารถปลูกต้นไม้ได้กำหนดที่ 63 ล้านต้น จะสามารถครอบคลุมพื้นที่กว่า 30% ของประเทศ หรือคิดเป็น 724,695เฮกตาร์
ที่มา: Xinhua
เนื้อหาที่น่าสนใจ