นักท่องเที่ยวโปรดรู้ จีนสั่งห้ามบินโดรนในเขตจุดชมวิวตามธรรมชาติ หลังมีนักท่องเที่ยวหลายคนบินโดรนแล้วโดนนกบินโฉบโดรนไป หวั่นอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อนกและระบบนิเวศได้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา นักบินโดรนคนหนึ่ง กำลังทำการบินโดรนเพื่อบันทึกคลิปวิดีโอในจุดชมวิวจิ่วเทียนเฟิงเลี่ยน ขณะที่กำลังบินโดรนจู่ ๆ ก็มีนกนักล่าตัวหนึ่งบินโฉบคว้าโดรนไป
และเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 โดรนอีกลำที่กำลังทะยานบินเพื่อค้นหาโดรนเครื่องที่สูญหายไปก็ถูกนกนักล่าบินโฉบคว้าไปด้วยเช่นกัน หลังจากขึ้นบินไม่นาน
จากเหตุการณ์ทั้งหมด จึงทำให้สำนักป่าไม้อำเภอซางจื๋อของจีน ประกาศสั่งห้ามบินโดรนปีกหมุนทุกชนิดภายในจุดชมวิวจิ่วเทียนเฟิงเลี่ยน เพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงลดการรบกวนและความเสียหายต่อที่อยู่อาศัยและการเพาะพันธุ์ของนก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดผลชันสูตรสาเหตุการตายแพนด้า "หลินฮุ่ย" พบหลอดเลือดแดงเสื่อม-แข็งตัว
"วาฬสีน้ำเงิน" ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าสงวน ป้องกันไม่ให้สูญพันธุ์
ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์นั้นได้ทำให้เจียงฟางหมิง เจ้าที่สำนักป่าไม้จางเจียเจี้ยเห็นด้วย และก็สั่งให้จุดชมวิวในความดูแลของตนอย่าง จุดชมวิวในเมืองจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน ห้ามใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนในพื้นที่ดังกล่าว
โดยเจียงฟางหมิงกล่าวว่า สาเหตุที่นกนักล่าบินโจมตีโดรน เป็นเพราะมันเข้าใจว่าโดรนคือเหยื่อหรือผู้บุกรุกที่รุกล้ำเข้าไปในอาณาเขต
23 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันเต่าโลก เต่าตายเพราะพลาสติกอย่างต่ำปีละ 1,000 ตัว
รู้จัก! ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ ร่วมปกป้องวิกฤตสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต
ด้านเติ่งเสวียเจี้ยน ศาสตราจารย์ประจำวิทยาลัยชีววิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยครูหูหนาน ก็กล่าวเสริมว่า นักท่องเที่ยวและผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพทางอากาศบางส่วน นิยมบินโดรนเพื่อถ่ายคลิปวิดีโอจุดชมวิวที่ไม่ค่อยมีผู้คนไปเยือน เช่น ภูเขา หุบเขาลึก และทะเลสาบ โดยไม่รู้ว่า โดรนของตนอาจเป็นอันตรายต่อนก
โดรนอาจส่งผลต่อกิจกรรมปกติของนกขนาดเล็กบางชนิด และอาจทำให้นกขนาดใหญ่ เช่น อินทรี ได้รับบาดเจ็บหากพวกมันบินโจมตีโดรน
ทั้งนี้คำสั่งห้าม หากผู้ที่ละเมิดคำสั่งนี้จะถูกลงโทษโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย ส่วนเที่ยวบินโดรนสำหรับธุรหิจทางการต่าง ๆ สามารถขึ้นบินได้ หลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว
ที่มาข้อมูล
Xinhua Thai