กำลังอันตรายมากยิ่งขึ้น ล่าสุดนักวิจัยจากออสเตรียพบ ไมโครพลาสติกในสมอง ซึ่งซึมเข้าไปได้หลังบริโภคเข้าร่างกายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไมโครพลาสติกอันตรายขนาดไหน?
ยิ่งปล่อยไว้นาน อันตรายยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ การศึกษาใหม่จากทีมนักวิจัยออสเตรีย สหรัฐอเมริกา ฮังการี และเนเธอร์แลนด์ ได้ค้นพบว่า ปัจจุบัน ไมโครพลาสติกสามารถเข้าถึงสมองได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเข้าสู่ร่างกาย
ในความเป็นจริง การทดลองนี้เกิดขึ้นกับหนู สัตว์ทดลองยอดฮิตของมนุษย์ พวกเขาผสมไมโครพลาสติกลงไปในอาหารการกินของพวกมันพร้อมกับทำให้ไมโครพลาสติกที่ผสมลงไปนั้น สามารถเรืองแสงได้ และหลังจากนั้นก็ใช้เครื่องสแกนและแบบจำลองคอมพิวเตอร์ประกอบการทดลอง
ผลการวิจัยทำเอานักวิทย์อึ้ง เราพบว่าไมโครพลาสติกเหล่านั้นก็เคลื่อนไหวเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงผ่านทางเลือด ซึ่งนี่คือสิ่งผิดปกติที่เรากำลังพบว่าไมโครพลาสติกอันตรายเหล่านี้กำลังซึมสู่ร่างกายเร็วขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิกฤตหอยแมลงภู่! วิจัยพบ หอยแมลงภู่เริ่มมีขนาดเล็กลง เพราะมลพิษในท้องทะเล
นักวิจัยพบโรคใหม่ "พลาสติกซีส" ในนก ผลจากขยะพลาสติกในทะเล มนุษย์ติดได้?
ขยะพลาสติกเกลื่อนโลก แต่ ธุรกิจตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดยังสดใส ไปได้สวย
ทำไมไมโครพลาสติกจึงสามารถไหลเข้าสู่สมองได้?
นักวิทย์อธิบายว่า ตามปกติแล้วร่างกายจะมีแผงกั้นระหว่างเลือดและสมองที่จะช่วยปกป้องสมองของเราจากภัยคุกคามที่อาจปนเปื้อนเข้ามา เช่น สารพิษหรือสารอันตรายอื่น ๆ แต่หากเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์พวกมันจะปล่อยให้ผ่านเข้าไปได้ ดังนั้น นักวิทย์จึงสงสัยว่า ไมโครพลาสติกเหล่านี้เป็นสารแบบไหนกันแน่ถึงได้ผ่านเข้าสมองฉลุยแบบนี้ ซึ่งตรงนี้เองเรายังต้องศึกษาหาคำตอบต่อไป
แต่สิ่งที่เราควรกังวลมากว่านั้นคือ ผลที่ตามมาของไมโครพลาสติกในร่างกายมนุษย์ เราทราบกันดีว่า ไมโครพลาสติกหรือนาโนพลาสติก ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่หลุดออกมาจากขยะพลาสติกในชีวิตประจำวันของเรา เป็นสารที่อาจอันตรายต่อสัตว์ป่า สิ่งแวดล้อมและตัวมนุษย์เอง
ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยหลายชิ้นอธิบายว่า เรายังไม่อาจรู้แน่ชัดว่า ไมโครพลาสติกที่พบในร่างกายมนุษย์นั้นจะส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร แต่ในอนาคตเชื่อว่ามันส่งผลแน่ ๆ มันสามารถซึมเข้าสู่เส้นเลือด เข้าสู่ปอด เข้าสู่น้ำนมในหญิงตั้งครรภ์ และอีกสารพัดส่วนในร่างกาย
ดังนั้น สิ่งที่นักวิทย์กังวลคือ ผลกระทบระยะยาวของไมโครพลาสติก มันอาจส่งผลให้ร่างกายมนุษย์เพิ่มความเสี่ยงของการอักเสบ ก่อให้เกิดมะเร็ง ความผิดปกติของระบบประสาท หรือแม้กระทั่งต้นเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์หรือพาร์กินซัน อีกทั้ง เด็กที่ได้รับไมโครพลาสติกผ่านมารดาทั้งทางรกและน้ำนม อาจทำให้มีพันธุกรรมที่ผิดปกติ ร่างกายเจริญเติบโตช้าหรือมีการรับรู้ที่ไม่ส่งผลดีนักสำหรับเด็ก
ไมโครพลาสติกกลายเป็นมัจจุราชที่เรามองไม่เห็นและยังคงบริโภคมันเข้าไปทุกวัน ซึ่งในการวิจัยชิ้นนี้ยังได้เสริมอีกว่า เรากำลังรับไมโครพลาสติกผ่านภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์อาหาร ซึ่งตอนนี้แค่ขวดน้ำเปล่าพลาสติกก็สามารถทำให้ไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายของเราได้ด้วย
โดยการศึกษาชิ้นหนึ่งบอกว่า หากใครก็ตามที่ดื่มน้ำ 1.5-2 ลิตรต่อวันจากขวดพลาสติก ผู้คนเหล่านั้นจะบริโภคไมโครพลาสติกเข้าไปประมาณ 90,000 ชิ้นต่อปี แต่หากดื่มจากน้ำประปาตัวเลขของการบริโภคไมโครพลาสติกจะลดลงเหลือ 40,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งแบบไหนก็น่ากลัวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การจะแก้ไขเรื่องนี้ได้คงจะยากในยุคปัจจุบันนี้ หากเราไม่สามารถลดการใช้งานพลาสติกลงได้ทุกช่องทางและระบบการกำจัดขยะพลาสติกยังไม่สามารถครอบคลุมการรั่วไหลของขยะพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือพยายามละและเลิกการใช้งานพลาสติกให้ได้มากที่สุดเพื่อให้พลาสติกปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ที่มาข้อมูล