svasdssvasds

อัปเดต "มาตรการ EV 3.5" ใกล้คลอดแล้ว! เพิ่มเกณฑ์ใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น

อัปเดต "มาตรการ EV 3.5" ใกล้คลอดแล้ว! เพิ่มเกณฑ์ใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น

พามาคุยกับ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อัปเดตมาตรการ EV 3.5 ใกล้คลอดแล้ว! เร็วๆนี้ พร้อมเพิ่มเกณฑ์ใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น มอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก รถโดยสาร

SHORT CUT

  • พามาคุยกับ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อัปเดตมาตรการ EV 3.5 ว่าใกล้คลอดแล้ว! เร็วๆนี้
  • คาดว่าในปี 2567 จะเป็นปีแรกที่ค่ายรถ EV ที่เซ็นสัญญาทั้ง 2 มาตรการจะเริ่มเปิดโรงงาน เพื่อผลิตชดเชยจากการนำเข้า ทำให้คาดว่าจะมียอดการผลิตรถ EV ในประเทศปีนี้อยู่ที่ 8-9 หมื่นคัน
  • ตั้งเป้าให้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา แต่ยังจะไม่ได้ได้ทอดทิ้งยานยนต์ดั้งเดิม (ICE)

พามาคุยกับ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อัปเดตมาตรการ EV 3.5 ใกล้คลอดแล้ว! เร็วๆนี้ พร้อมเพิ่มเกณฑ์ใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น มอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก รถโดยสาร

ปัจจุบันไทยยังคงเดินหนุนเรื่องพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้น คือ มาตรการกระตุ้นยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV  โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ออกมาเปิดเผยว่า มาตรการ EV 3.0 และมาตรการ EV 3.5 ที่มีการลดอัตราภาษีสรรพสามิต รถ EV จาก 8% เหลือ 2% พร้อมจ่ายเงินอุดหนุนให้ค่ายรถยนต์ที่เซ็นสัญญาเข้าร่วมโครงการกับกรมฯ สูงสุดคันละ 150,000 บาท บนเงื่อนไขที่จะต้องมีการผลิตรถ EV ในประเทศ ตามจำนวนรถที่นำเข้ามาในปี 2565-2566 ภายในปี 2567 ในอัตรา 1 ต่อ 1 และในปี 2568 อัตรา 1 ต่อ 1.5

ทั้งนี้คาดว่าในปี 2567 จะเป็นปีแรกที่ค่ายรถ EV ที่เซ็นสัญญาทั้ง 2 มาตรการจะเริ่มเปิดโรงงาน เพื่อผลิตชดเชยจากการนำเข้า ทำให้คาดว่าจะมียอดการผลิตรถ EV ในประเทศปีนี้อยู่ที่ 8-9 หมื่นคัน และจะเริ่มเป็นปีแรกที่ไทยสามารถส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศได้

แน่นอนว่ามาตรการ EV 3.5 ยังถูกจับตามองจากสังคม และภาคธุรกิจ ล่าสุดมีความคืบหน้า #สปริงนิวส์ มีโอกาสอัปเดตเรื่องนี้กับ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยความคืบหน้าว่า การส่งเสริม EV ในไทยต้องเริ่มที่ส่งเสริมการตั้งโรงงานในไทยก่อน สำหรับความความคืบหน้ามาตรการอีวี 3.5 (EV 3.5) าตรการ อีวี 3.5 (EV 3.5) โดยจะมีการประชุมหาข้อสรุปในเร็วๆนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีการเพิ่มเกณฑ์ใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น มอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก รถโดยสาร เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น แต่อาจต้องลดการอุดหนุนในเรื่องของอื่นๆลง

 

ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าให้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา แต่ยังจะไม่ได้ได้ทอดทิ้งยานยนต์ดั้งเดิม (ICE) และได้มีการขยายเวลาบังคับใช้มาตรการมาตรฐานเครื่องยนต์ยูโร 5 และยูโร 6 ไปอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัว

นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรม กำลังจะยื่นขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป เพื่อรองรับนโยบายพลังงานสีเขียวได้อย่างเป็นรูปธรรม ใช้ได้ด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการสนับสนุนพลังงานสะอาดอื่นๆ

ยังไงในเร็วๆนี้ต้องจับมาตรการ EV 3.5 ที่ใกล้คลอดแล้ว! ว่าจะไปในทิศทางไหน แต่..แน่นอนว่าทั้งหมดจะเป็นยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนพลังงานสะอาดของไทยอย่างแน่นอน!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

related