Nissan Ariya ได้ทำให้คนทั่วโลกตะลึง ด้วยการทดสอบวิ่งไกล 27,000 กม. จากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ ใช้เวลาทั้งหมด 9 เดือนในการเดินทาง ซึ่งเคสนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้คนมั่นใจรถ EV มากขึ้น
Nissan Ariya รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะมาทำลายกำแพงกั้นที่คนบางกลุ่มมองว่ารถ EV ไม่สามารถใช้งานได้ในการเดินทางไกล เพราะการทดสอบล่าสุดของ Nissan ได้นำนักเดินทางไกลอย่าง คริสและจูเลีย แรมซี่ ขับ Nissan Ariya เดินทางกว่า 27,000 กม. จากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ ซึ่งใช้เวลาการเดินทางกว่า 9 เดือนด้วยรถยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน
ภารกิจครั้งนี้เรียกว่า Pole to Pole หรือ ขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ ซึ่ง Nissan ต้องการทำลายสถิติของรถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนมักกังวลเรื่องสถานีชาร์จหรือระยะทางในการขับขี่
ตัวรถของ Nissan Ariya ได้รับการดัดแปลงเพื่อภารกิจครั้งนี้ จาก Arctic Trucks บริษัทไอซ์แลนด์ที่เชี่ยวชาญในการเตรียมรถยนต์สำหรับสภาพอากาศที่ยากที่สุดในโลก
Nissan Ariya ได้รับการตกแต่งเพิ่มให้เหมาะกับสภาพพื้นที่หนาวจัดและเต็มไปด้วยหิม ยกสูงและมาพร้อมกับยางขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยติดตั้งกับรถยนต์ไฟฟ้า
การเดินทางของภารกิจ Pole to Pole ได้ไปพร้อมกับรถพ่วงที่ติดตั้งกังหันลมขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ควบคู่กับแผงโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่ชาร์จรถจากช่วงที่แสงอาทิตย์ค่อนข้างยาวนาน
การเดินทางผ่านอเมริกาเหนือนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย เนื่องจากบนทางหลวงเส้นหลัก มีที่ชาร์จมากมาย ยกเว้นว่า Nissan Ariya มีประสิทธิภาพในระยะทางที่น้อยลงมาก ซึ่งเป็นผลจากหลังจากการดัดแปลง ใส่ยางออฟโรดขนาดใหญ่ บังโคลนขนาดใหญ่ และแร็คหลังคาพร้อมเต้นท์บนหลังคา
อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถเดินทางจากขั้วโลกเหนือไปยังขั้วโลกใต้ ได้ด้วยระยะทาง 241-321 กม. (จากเดิม ขับขี่ระยะทางสูงสุด 435 กม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
ทีมนักเดินทางได้พบปัญหาระหว่างเดินทางไม่ว่าจะเป็น สถานีชาร์จน้อย แถมที่ชาร์จเสีย แต่ภารกิจครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ปรับปรุงภูมิภาคนั้นๆในทางที่ดีขึ้น ดังนั้น Pole to Pole จึงร่วมมือกับ Enel X เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จตามเส้นทางต่าง ๆ
Nissan Ariya ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถชาร์จรถได้ในขณะที่อุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่านั้น แต่ต้องสร้างกำแพงหิมะขนาดเล็ก เพื่อป้องกันไม่ให้ลมไปแช่แข็งตัวแบตเตอรี่ในช่วงข้ามคืน
และในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงขั้วโลกใต้ได้สำเร็จด้วย Nissan Ariya ใช้เวลาเดินทางร่วม 9 เดือน กับระยะทางกว่า 27,000 กม. นับหลังจากเริ่มออกเดินทางจากขั้วโลกเหนือในเดือนมีนาคม ซึ่งระยะเวลา 9 เดือน อาจจะดูเหมือนนาน แต่จริง ๆ แล้ว ทั้งคู่ได้ทำตามแผนที่วางเอาไว้ เพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
ที่มา : electrek
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :