สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ทลายขีดจำกัดพลังงานลมในประเทศ ด้วยการเปิดตัวโครงการพลังงานลมขนาดยักษ์ พร้อมส่งกระแสไฟฟ้าพลังงานสะอาดเลี้ยงบ้านเรือนกว่า 23,000 หลังตลอดทั้งปี
ประเทศผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กำลังก้าวข้ามสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานยุคใหม่ ด้วยการลงทุนเมกะโปรเจ็กพลังงานลมขนาดกว่า 103.5 เมกะวัตต์ เทียบเท่ากับกำลังไฟฟ้าที่สามารถให้พลังงานกับบ้าน 23,000 หลัง ตลอดทั้งปี สอดรับกับการประชุมสุดยอดโลกร้อนประจำปี COP28 ที่เมืองดูไบ ปลายปีนี้
โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 103.5 เมกะวัตต์ ดังกล่าวพัฒนาโดยบริษัท Abu Dhabi Future Energy Company PJSC – Masdar คาดว่าจะช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 120,000 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการนำรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมากกว่า 26,000 คันออกจากท้องถนนทุกปี นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เพิ่มพลังงานลมระดับสาธารณูปโภคให้กับพลังงานผสมของตน
“โครงการนี้จะเป็นโครงการสาธารณูปโภคพลังงานลมขนาดใหญ่ที่จะเติมไฟฟ้าป้อนโครงข่ายพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจะทำให้แหล่งพลังงานของประเทศมีความหลากหลายมากขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วัสดุศาสตร์ และอากาศพลศาสตร์เพื่อจับความเร็วลมต่ำในระดับสาธารณูปโภค ซึ่งปูทางไปสู่โครงการต่อไป” ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ชีค คาเลด บิน โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี กล่าว ระหว่างพิธีเปิดโครงการ
ประเทศสหรัฐเอมิเรตต์ ถือเป็นประเทศส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติหลักของโลกประเทศหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กำลังปรับตัวเพื่อเปลี่ยนการใช้และการผลิตพลังงานให้เป็นพลังงานสะอาด ตอบสนองต่อโจทก์การปรับเปลี่ยนพลังงานเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศที่มีข้อจำกัดในการลงทุนพลังงานลม เนื่องจากเป็นประเทศที่มีแรงลมค่อนข้างต่ำ ทำให้การลงทุนพลังงานลมในประเทศจึงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก แต่จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ และอากาศพลศาสตร์ ทำให้สามารถออกแบบกังหันลมผลิตไฟฟ้า ที่สามารถปั่นกระแสไฟฟ้าได้ แม้ว่าในพื้นที่จะมีลมไม่แรงก็ตาม
สำหรับพื้นที่โครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลมดังกล่าว มีพื้นที่โครงการครอบคลุมพื้นที่ 4 แห่ง ได้แก่
ซีอีโอของ Masdar โมฮัมเหม็ด จามีล อัล รามานี กล่าวว่า การเปิดตัวโครงการพลังงานลมระดับสาธารณูปโภคโครงการแรกของ UAE เป็นผลมาจากการทำงานหนักและการทำงานร่วมกันเป็นเวลาหลายปี มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากวิสัยทัศน์และการสนับสนุนจากผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
“เราสามารถบุกเบิกเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อเอาชนะความเร็วลมที่ต่ำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และควบคุมพลังของทรัพยากรธรรมชาติที่น่าเกรงขามนี้ ในขณะที่เราเร่งเส้นทางสู่ Net Zero ภายในปี 2593 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งเป็นไปได้เมื่อคุณมีวิสัยทัศน์ และจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิก” โมฮัมเหม็ด จามีล อัล รามานี กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กังหันลมยักษ์ของจีน สร้างสถิติด้านกำลังการผลิตไฟฟ้ามากที่สุดในโลก
เผยไม้ตาย ปตท.สผ. เทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอน อีกหนึ่งทางเลือกกู้โลก
ที่มา: Khaleejtimes