Tesla Model 3 Highland รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากทางเทสลา ซึ่งได้ปรับโฉมใหม่เกือบครึ่งและยังมีสเปคที่วิ่งได้ไกลขึ้น 12% แถมยังมีราคาที่ถูกลงซึ่งอยู่ที่ราวๆ 1.27 ล้านบาทในจีน เรามาดูกันว่ารุ่นนี้น่าสนใจแค่ไหน
Tesla Model 3 Highland ปรับโฉมใหม่ในหลายปีซึ่งรุ่นก่อนหน้านี้ก็ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี ปรับดีไซน์ใหม่ให้โฉบเฉี่ยว สปอร์ตยิ่งขึ้น แถมยังวิ่งได้ไกลกว่าเดิมถึง 12% ส่วนราคาขายที่จีนเริ่มต้นที่ 259,900 หยวน หรือราว ๆ 1,274,000 บาท ส่วนในไทยคาดว่าจะนำเข้ามาทำตลาดในเร็ว ๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราคา Tesla Model 3 Highland
Tesla Model 3 Highland รุ่น Rear-Wheel Drive ราคาประมาณ 1,274,000 บาท
Tesla Model 3 Highland รุ่น Long Range AWD ราคาประมาณ 1,428,000 บาท
*ราคาอ้างอิงจากราคาจำหน่ายในจีน
Tesla Model 3 Highland เปิดตัวมาในปี 2024 ในดีไซน์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่หรือเรียกสั้นๆว่า Face-Lift ซึ่งทาง Tesla เคลมว่าได้เปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนต่าง ๆ กว่า 50% ของตัวรถยนต์
โดยดีไซน์ใหม่จะมาในหน้าตาที่คล้ายกับรุ่นเดิม แต่จะดูมีสปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าและท้ายดีไซน์ใหม่ ด้านหลังเปลี่ยนจากโลโก้ เป็นตัวอักษร Tesla แบบเต็ม ๆ พร้อมเพิ่มสีใหม่อย่าง สีเทา Stealth Grey และสีแดง Ultra Red แทนที่สี Red Multi Coat ในรุ่นเดิม
สเปค Tesla Model 3 Highland
Tesla Model 3 Highland รุ่น Rear-Wheel Drive จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 513 กิโลเมตร (WLTP) และ Tesla Model 3 Highland รุ่น Long Range AWD สามารถวิ่งได้ไกลสุด 629 กิโลเมตร (WLTP) ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนแล้วถือว่าเพิ่มขึ้น 11 – 12%
โดยตัวล้อมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ขนาดมาตรฐาน Photon wheels ขนาด 18 นิ้ว และ Photon wheels 19 นิ้วซึ่งจะส่งผลต่อระยะทางการขับขี่นิดหน่อย
ด้านดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ Tesla Model 3 Highland นั้น มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เยอะพอสมควร มาพร้อมกระจก Acoustic Glass เมื่อรวมกับดีไซน์ Aerodynamics ใหม่แล้วช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีกว่าเดิมถึง 20% ได้จอทัชสกรีนด้านหลังแบบใหม่ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว, ตัดก้านไฟเลี้ยวออกจากพวงมาลัย ให้ปรับใช้งานผ่านจอทัชสกรีนเหมือน Model S และ X
ตัวเบาะที่นั่งด้านหน้ายังมาพร้อมกับระบบเป่าลมร้อน/เย็น ที่สามารถควบคุมจากนอกตัวรถได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Tesla ส่วนเบาะหลังนั่งสบายมากขึ้น ด้านดีไซน์จะมาในแบบเจาะรูแบบเบาะหน้า แต่จะไม่มีระบบเป่าลมระบายอากาศ
ด้านระบบเสียงก็เพิ่มลำโพงจาก 14 ตัว เป็น 17 ตัวรอบคัน พร้อมอัปเกรดเทคโนโลยี Bluetooth และ Wifi ทำให้การเชื่อมต่อเราเตอร์และระบบกุญแจรถยนต์เสถียรยิ่งขึ้น รวมถึงทำให้คุณภาพเสียงการสนทนาผ่านไมโครโฟนดีขึ้นด้วย
ส่วนคอนโซลด้านหน้ายังได้รับการออกแบบใหม่ ช่องแอร์กว้างกว่าเดิม อีกทั้งยังมีที่วางชาร์จมือถือแบบไร้สายรองรับการชาร์จด้วยกันถึง 2 เครื่อง ด้านในตัวรถยังมีไฟส่องสว่างแบบ Ambient Light ที่สามารถปรับแต่งได้เอง กระโปรงหลังก็มีพื้นที่เก็บของเยอะขึ้นจากเดิม 561 ลิตร เป็น 594 ลิตร
ที่มา : Tesla