มนุษย์ได้คิดค้นพลังงานสะอาดใหม่ๆ มาเพื่อช่วยให้มีพลังงานใช้ได้ไม่ขาด ปัจจุบันเป็นยุคของ Green Energy พลังงานสีเขียวที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้น 'นิวเคลียร์ฟิวชัน' พลังงานแบบใหม่ที่สร้างพลังงานได้อย่างไม่จำกัด ทีสำคัญทำลายสิ่วแวดล้อม
ตอนนี้หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า นิวเคลียร์ฟิวชัน (Nuclear Fusion) กันมาบ้างแล้ว และอาจจะยังงงว่า นิวเคลียร์ กับนิวเคลียร์ฟิวชันต่างกันอย่างไร เรามีคำตอบ
มนุษย์เราใช้พลังงานตั้งแต่เกิดจนตาย ตั้งแต่ตื่นไปจนถึงทำกิจกรรมต่างๆ และเข้านอน และ 80% ของภาคพลังงานเป็นแหล่งของก๊าซเรือนกระจก ซึ่งนิวเคลียร์ฟิวชัน (Nuclear Fusion) เป็นอีกทางรอดที่จะช่วยให้มนุษย์มีพลังงานใช้โดยที่ไม่ต้องสร้างก๊าซเรือนกระจก นิวเคลียร์ฟิวชัน เป็นพลังงานแบบใหม่ที่เกิดจากการคิดค้นของมนุษย์ โดยกระบวนการจำลองพลังงานแบบเดียวกับที่ให้พลังงานแก่ดวงอาทิตย์
หลังจากการพยายามมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ นิวเคลียร์ฟิวชันมอบ ‘การได้รับพลังงานสุทธิ’ (Net Energy Gain) นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จในการหาพลังงานที่สะอาดไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังสามารถใช้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด พลังงานจากนิวเคลียร์ฟิวชันถือว่าตอบโจทย์
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
Julio Friedmann หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Carbon Direct และอดีตหัวหน้านักเทคโนโลยีพลังงานของ Lawrence Livermore กล่าวว่า ไฮโดรเจนเป็นสิ่งที่มีอยู่มากในจักรวาล และไฮโดรเจนก็พบได้ในน้ำ ดังนั้นสิ่งที่สร้างพลังงานนี้จึงมีไม่จำกัดและสะอาด
นิวเคลียร์ฟิวชั่น (Nuclear Fusion) เกิดจากการรวมกันของอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า ได้แก่ ไฮโดรเจน จนเกิดเป็นอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งจะปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างมหาศาล โดยเป็นปฏิกิริยาที่พบได้จากการสร้างแสงสว่างของดวงอาทิตย์และดาวต่างๆ และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพลังงานเหล่านี้จะเป็นพลังงานสะอาด สร้างก๊าซเรือนกระจกน้อยมากต่างจากเชื้อเพลิงฟอสซิลจากน้ำมันและถ่านหิน นอกจากนี้ Nuclear Fusion ยังไม่มีกากรังสีหรือมลพิษเหมือนพลังงานจากฟอสซิลอีกด้วย ซึ่งสารตั้งต้นอย่าง Deuterium และ Tririum ขนาด 1 kg สามารถสร้างพลังงานได้เทียบเท่ากับเชื้อเพลิงฟอสซิล 10 kg เลยทีเดียว แต่กว่าโลกเราจะได้ใช้พลังงานสุดล้ำนี้ ต้องใช้เวลามากกว่า 60 ปี
ที่มา : Reuter / The guardian