พาทำความรู้จัก ! กฎหมาย BEC สร้างมาตรฐาน “อาคารประหยัดพลังงาน” ใช้พลังงานลดลง 10-20% กระทรวงพลังงานคาดว่าจะช่วยประเทศลดใช้ไฟ 47,000 ล้านบาท/ปี
ยุคนี้คือยุคแห่งการประหยัดพลังงาน เพราะเทรนด์การประหยัดพลังงานมาแรงมากๆ ทำให้หลายบ้านเริ่มประหยัดพลังงานมากขึ้น ทั้งประหยัดในการใช้เครื่องใช้ภายในบ้าน และบางบ้านหันมาติดโซลาร์เซลล์เพื่อหันมาใช้พลังงานสะอาดแทน ในส่วนของอาคารสำนักงานก็มีการประหยัดพลังงานมากขึ้น ด้วยการออกแบบอาคาร สำนักงาน ให้รักษ์โลกมากยิ่งขึ้น
วันนี้จะพามาทำความรู้จักกฎหมาย BEC ที่สามารถสร้างมาตรฐานอาคารให้ใช้พลังงานลดลง 10-20 % โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้องผลักดันใช้กฎกระทรวงการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน หรือ Building Energy Code : BEC เพื่อควบคุมอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พารู้จัก ! ‘รถรางอัจฉริยะพลังไฮโดรเจน’ ฝีมือจีน ประหยัดพลังงาน
เปิดโมเดลฮับ "ศูนย์กระจายสินค้ารักษ์โลก" ประหยัดพลังงานทุกมิติ
ญี่ปุ่น ขอประชาชนในโตเกียวประหยัดพลังงาน รับมือฤดูร้อน หวั่นไฟสำรองไม่พอ
ทั้งนี้ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 โดยจะเริ่มใช้บังคับอาคารก่อสร้างใหม่ หรือปรับปรุงดัดแปลงขนาด 2,000 ตร.ม. ขึ้นไป ต้องออกแบบให้มีการใช้พลังงานในแต่ละส่วนที่กำหนดให้เป็นไปตามเกณฑ์การใช้พลังงานตามมาตรฐานขั้นต่ำ และต้องมีผู้รับรองผลการประเมินด้านพลังงานที่ได้รับการรับรองจากพพ. เพื่อประกอบการขออนุญาตก่อสร้างอาคารตามกฎหมายควบคุมอาคาร
พร้อมกันนี้กระทรวงพลังงานจะดำเนินการเร่งขับเคลื่อนกฎหมาย BEC ที่จะเป็นกลไกสำคัญช่วยประหยัดพลังงานในภาคอาคาร โดยอาคารที่ออกแบบผ่านตามมาตรฐาน BEC จะประหยัดพลังงานได้สูงสุด 10-20% ขึ้นอยู่กับวิธีการออกแบบอาคาร และการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดการใช้พลังงาน เช่น ระบบปรับอากาศมาตรฐานเบอร์ 5 คอนกรีตมวลเบา หลอด LED ฉนวนกันความร้อน กระจกเขียวหรือกระจกสองชั้น
อย่างไรก็ตามจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเพียง 3-5% และคืนทุนไม่เกิน 3 ปี แต่จะช่วยประหยัดต้นทุนได้ระยะยาว เนื่องจากอาคารมีอายุการใช้งานนาน 20-30 ปี ซึ่งนอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าลดลงแล้ว ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์องค์กรหรือธุรกิจที่ให้ความสำคัญและใส่ใจด้านประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม และสร้างธุรกิจผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในอาคารเพิ่มขึ้น สร้างโอกาสในการจ้างงานเพิ่มขึ้น ยกระดับมาตรฐานวัสดุอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในประเทศ สร้างมาตรฐานทางวิชาชีพ และในภาพรวมจะช่วยประเทศลดการใช้ไฟฟ้าได้รวมถึง 13,700 ล้านหน่วย หรือกว่า 47,000 ล้านบาท
โดยกระทรวงพลังงาน จะได้ใช้กลไกสนับสนุนของกรมโยธาฯ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกทม.เร่งขับเคลื่อนกฎหมาย BEC ที่จะช่วยสนับสนุนอาคาร 9 ประเภท ได้แก่
-สถานศึกษา
-สำนักงาน
-อาคารโรงมหรสพ
-อาคารห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า
-อาคารสถานบริการ
-อาคารชุมนุมคน
-อาคารโรงแรม
-สถานพยาบาล
-อาคารชุด ที่มีพื้นที่ใช้สอยในอาคาร ตั้งแต่ 2,000 ตร.ม.ขึ้นไป
"กลไก BEC จะเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้างหรือดังแปลงอาคาร ที่ต้องให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด และเกิดการใช้พลังงานในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พพ. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกฎกระทรวงฯ BEC ดังกล่าว ในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยจัดฝึกอบรมผู้ตรวจรับรองแบบอาคารให้กับวิศวกรและสถาปนิก ให้ได้การรับรองจาก พพ. จำนวน 1,200 คน ภายในปี 2566 อบรมให้ความรู้ความเข้าใจแนวทางการพิจารณาอนุญาตก่อสร้างอาคารตามเกณฑ์ BEC ให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งได้อบรมไปแล้วจำนวนกว่า 3,300 คนทั่วประเทศ ”
นอกจากนี้สร้างเครือข่ายส่งเสริมและสนับสนุนการออกแบบอาคารตามเกณฑ์ BEC ร่วมกับภาคเอกชนและภาครัฐมากกว่า 30 แห่ง รวมทั้งจะดำเนินการมอบฉลากแบบอาคารอนุรักษพลังงาน (BEC Awards) ให้แก่ อาคารที่ผ่านการตรวจการประเมินแบบอาคาร และมีผลประหยัดสูงกว่าเกณฑ์ BEC สามารถประหยัดพลังงานได้ 30% ขึ้นไป รวมกว่า 140 อาคาร ตั้งแต่ปี 2562- 2565