จะทำอย่างไรกับโทรศัพท์เก่า คอมพิวเตอร์เก่า และขยะอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ

ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา Apple, Google และ Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดและอุปกรณ์อื่น ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภคอัปเกรดก่อนวันหยุด แต่ในกระบวนการนี้ บริษัทเหล่านี้และบริษัทอื่นๆ อาจกำลังเพิ่มปัญหาให้เพิ่มขึ้น นั่นคือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์

อายุการใช้งานที่จำกัดของอุปกรณ์เทคโนโลยีจำนวนมากรวมกับตัวเลือกบางอย่างในการแก้ไขอุปกรณ์รุ่นเก่า ทำให้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์พุ่งสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากสหประชาชาติ (United Nation: UN) ระบุว่า โลกสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 53.6 ล้านเมตริกตันในปี 2019 และมีเพียง 17.4% เท่านั้นที่ถูกรีไซเคิล

วันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ต.ค.) เป็นวันขยะอิเล็กทรอนิกส์สากล (International E-Waste Day) ซึ่งเป็นโอกาสประจำปีที่จะไตร่ตรองถึงผลกระทบของขยะอิเล็กทรอนิกส์และดำเนินการซ่อมแซมหรือรีไซเคิลให้มากขึ้น สภาขยะอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Waste Electrical and Electronic Equipment : WEEE Forum) องค์กรไม่แสวงหากำไรในบรัสเซลส์ที่เป็นหัวหอกในโอกาสนี้ตั้งแต่ปี 2018 กล่าวว่าจุดเน้นในปีนี้คือการดำเนินการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์เล็กน้อยที่หลายคนอาจสะสมโดยไม่ได้ตั้งใจรวมถึงของคุณเก่า โทรศัพท์มือถือ หูฟัง รีโมทคอนโทรล และเมาส์คอมพิวเตอร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• จีนหวั่น ขยะอิเล็กทรอนิกส์กำลังเพิ่มขึ้นจนมีนำหนักมากกว่ากำแพงเมืองจีน
• ปี 2568 "วราวุธ" ประกาศเลิกนำเข้าขยะพลาสติก-ขยะอิเล็กทรอนิกส์ 100%
• เปลี่ยนขยะให้เป็นเงินด้วยการแยกขยะ Green2Get Application ช่วยจัดการขยะ
• ขยะชนิดไหนมีเยอะสุดในกรุงเทพฯ Greenpeace ชวนสำรวจขยะพลาสติกที่บางกระเจ้า

ปาสกาล เลรอย (Pascal Leroy) ผู้อำนวยการ WEEE Forum กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ผู้คนมักไม่ทราบว่าสิ่งของที่ดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญเหล่านี้มีมูลค่ามากมาย และเมื่อรวมกันแล้วในระดับโลกก็มีปริมาณมหาศาล"

ปัญหาของขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นมากกว่าแค่การทำความสะอาดพื้นที่ในลิ้นชักขยะของคุณ

สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากถูกส่งไปยังประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีความสามารถในการปฏิเสธการนำเข้าหรือโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้เพื่อรีไซเคิลอย่างปลอดภัย

ในขณะที่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ยังเตือนด้วยว่า ในประเทศกำลังพัฒนามักใช้แรงงานเด็กในการขัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องด้วยมือที่มีขนาดเล็กกว่า เพื่อค้นหาองค์ประกอบที่มีค่า เช่น ทองแดง เงิน แพลเลเดียม และอื่น ๆ

WHO ยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เด็กมากกว่า 18 ล้านคนกำลังเผชิญกับผลกระทบด้านสุขภาพเชิงลบมากมาย เนื่องจากพวกเขามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมการแปรรูปขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่เป็นทางการนี้

ต่อไปนี้คือขั้นตอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยโทรศัพท์ แล็ปท็อป และที่ชาร์จที่คุณเก็บไว้ที่บ้านเพื่อบรรเทาภาระขยะอิเล็กทรอนิกส์

ค้นหาบริการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์

หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ให้บริการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดในการจัดการอุปกรณ์เก่า

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการรวมตัวกันหลายกลุ่มเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการกำจัดอุปกรณ์อย่างมีความรับผิดชอบ กลุ่ม e-Stewards และการรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืนระหว่างประเทศ (Sustainable Electronics Recycling International) เสนอเครื่องมือออนไลน์เพื่อค้นหาศูนย์รีไซเคิลที่ได้รับการรับรอง

การรีไซเคิลโทรศัพท์มือถือทุก 1 ล้านเครื่อง หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency: EPA) เผยว่า สามารถรีไซเคิลทองแดงได้ 35,000 ปอนด์ (15,875 กก.) , เงิน 772 ปอนด์ (350 กก.) , ทองคำ 75 ปอนด์ (34 กก.) และแพลเลเดียม 33 ปอนด์ (14 กก.)

แต่ไม่ใช่ทุกที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์

ตรวจสอบกับร้านค้าปลีก

หากไม่พบศูนย์รีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ในบริเวณใกล้เคียง รายชื่อผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาจมีโครงการที่เสนอให้ลูกค้าสามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มารีไซเคิลได้ และผู้ผลิตหลายราย รวมถึง Apple มีโปรแกรมที่ให้เครดิตหรือรีไซเคิลฟรีเพื่อแลกกับการแลกอุปกรณ์ใช้แล้ว ตัวอย่างเช่น Google เสนอตัวเลือกในการขอฉลากการจัดส่งฟรีเพื่อส่งทางไปรษณีย์ในแกดเจ็ตและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้วสำหรับการรีไซเคิล

อย่ารีบเร่งในการอัพเกรด

ผู้สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์คือการพยายามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณให้นานที่สุด ในบางวิธี สิ่งนั้นจะง่ายกว่าที่เคย

ในขณะที่ผู้ผลิตเทคโนโลยีถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลวิธีที่มีเป้าหมายเพื่อให้คุณอัปเกรด ผู้กำหนดนโยบายได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อผลักดันบริษัทต่าง ๆ เพื่ออนุญาตให้ลูกค้าซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายขึ้นและสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการซ่อมที่เพิ่มขึ้น

เมื่อต้นปีนี้ Apple และ Samsung ได้เปิดตัวร้านซ่อมแบบบริการตนเอง โดยเสนอชิ้นส่วนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแก้ไขด้วยตนเองสำหรับสมาร์ทโฟนของตน Google ประกาศในทำนองเดียวกันว่าจะมีชิ้นส่วน Pixel ของแท้สำหรับ DIY-ers ที่ร้านค้าออนไลน์ในปีนี้