svasdssvasds

"นักฆ่าเงียบ" อากาศร้อนที่คร่าชีวิตชาวยุโรปแล้ว 50,000 รายในปีเดียว

"นักฆ่าเงียบ" อากาศร้อนที่คร่าชีวิตชาวยุโรปแล้ว 50,000 รายในปีเดียว

อากาศร้อนในยุโรปได้ถูกแพทย์นิยามให้เป็น "นักฆ่าเงียบ" หลังมีคนต้องเสียชีวิตเกือบ 50,000 ราย ในปี 2566 ซึ่งเป็นอัตราการเสียชีวิตที่ร้ายแรงเกินกว่าที่มีการคาดการณ์

SHORT CUT

  • อากาศร้อนที่เกิดจากมลพิษคาร์บอน คร่าชีวิตผู้คนในยุโรปไปเกือบ 50,000 รายเมื่อปีที่แล้ว
  • ความพยายามของผู้คนในการปรับตัวกับความร้อนช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ แต่ก็ยังเป็นอัตราการเสียชีวิตที่มากเกินไป
  • แพทย์แนะนำให้ทุกคนดูแลตัวเองเบื้องต้น หลีกเลี่ยงการเผชิญความร้อน

อากาศร้อนในยุโรปได้ถูกแพทย์นิยามให้เป็น "นักฆ่าเงียบ" หลังมีคนต้องเสียชีวิตเกือบ 50,000 ราย ในปี 2566 ซึ่งเป็นอัตราการเสียชีวิตที่ร้ายแรงเกินกว่าที่มีการคาดการณ์

นักวิจัยพบว่า อากาศร้อนอบอ้าวที่เกิดจากมลพิษคาร์บอน ได้คร่าชีวิตผู้คนในยุโรปไปเกือบ 50,000 รายเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ทวีปยุโรปกำลังร้อนขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าทวีปอื่นของโลกถึงสองเท่า ทำให้เกิดไฟป่าลุกลามในป่านอกกรุงเอเธนส์ของกรีซ ฝรั่งเศสต้องออกคำเตือนถึงอากาศที่ร้อนมากเกินไปสำหรับการออกกลางแจ้ง และสหราชอาณาจักรก็ต้องรับมือกับวันที่ร้อนที่สุดของปี

ผลการวิจัยยังพบว่า ความพยายามในการปรับตัวทางสังคมเพื่อรับมือกับคลื่นความร้อนนั้นเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากผู้คนไม่ปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ตัวเลขการเสียชีวิตดังกล่าวอาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อยอีก 80% 

\"นักฆ่าเงียบ\" อากาศร้อนที่คร่าชีวิตชาวยุโรปแล้ว 50,000 รายในปีเดียว

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตก็ยังนับว่าสูงจนเกินไป โดยอัตราการเสียชีวิตสูงสุดอยู่ที่กรีซ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 393 ราย ต่อประชากร 1 ล้านคน ตามมาด้วยอิตาลีที่ 209 รายต่อ 1 ล้านคน และสเปน 175 รายต่อ 1 ล้านคน

ดร.ซานติ ดี. ปิเอโตร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินที่มหาวิทยาลัยปาเวีย กล่าวว่า ตอนนี้ทีมแพทย์ต้องรักษาผู้ป่วยจำนวนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่เมื่อต้นเดือนมกราคม พร้อมย้ำว่า ปัญหาความร้อนจะต้องได้รับการแก้ไขในทุกระดับ 

\"นักฆ่าเงียบ\" อากาศร้อนที่คร่าชีวิตชาวยุโรปแล้ว 50,000 รายในปีเดียว

ส่วนผู้คนก็สามารถใช้มาตรการง่ายๆเพื่อปกป้องตนเองและคนที่พวกเขารักได้ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน หาที่ร่มเมื่ออยู่ข้างนอก และดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีภาวะขาดน้ำ เพราะพวกเขาไม่รู้ถึงความกระหาย จึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

\"นักฆ่าเงียบ\" อากาศร้อนที่คร่าชีวิตชาวยุโรปแล้ว 50,000 รายในปีเดียว

ที่มา: