SHORT CUT
แม่น้ำที่อุ่นขึ้นและการทำประมงที่มากเกินไป กำลังจะทำให้ชาวอลาสก้าพื้นเมืองเผชิญกับการขาดแคลนปลาแซลมอน เมื่อพวกมันอาจต้องเสี่ยงอพยพ หรือดิ้นรนเอาชีวิตรอดในแหล่งน้ำที่เสื่อมโทรม
ปลาแซลมอนจากอลาสกาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก กำลังเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคลื่นความร้อนในมหาสมุทร ทำให้อุณหภูมิในแม่น้ำของอลาสก้าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาแซลมอนแปซิฟิกถึง 5 สายพันธุ์กำลังเพิ่มสูงขึ้น ฝูงปลาแซลมอนบางส่วนถูกบังคับให้อพยพไปหาแหล่งน้ำที่อุณหภูมิเย็นกว่า และบางส่วนต้องดิ้นรนอยู่ที่เดิมท่ามกลางความเสี่ยงที่จะไม่รอดชีวิตและไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีมานานนับพันปี
แม้ว่าปลาแซลมอนแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะและวงจรชีวิตที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่พวกมันทั้งหมดเกิดในน้ำจืดและใช้เวลาอยู่ที่นั่น ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่มหาสมุทรเพื่อหาทรัพยากรที่ดีกว่าสำหรับการและเติบโต เมื่อเข้าสู่ช่วงขยายพันธุ์ก็จะกลับมาวางไข่บริเวณน้ำจืดที่เดิมอีกครั้ง
ปีเตอร์ เวสต์ลีย์ รองศาสตราจารย์ด้านการประมงจากมหาวิทยาลัยอลาสกาแฟร์แบงค์ (Alaska Fairbanks) กล่าวว่า แม่น้ำแต่ละสายมีปัจจัยที่แตกต่างกัน เช่น อุณหภูมิ ปริมาณน้ำ ไปจนถึงขนาดของหินและซอกหิน ปลาแซลมอนที่เกิดที่นั่นและรอดมาได้จึงต้องกลับมาขยายพันธุ์ที่เดิม เพราะมีลักษณะที่คุ้นชิน ทำให้พวกมันดำรงชีวิตได้ดีและมีโอกาสรอด
แต่แซลมอนเป็นปลาที่ความรู้สึกไวต่ออุณหภูมิ เมื่อน้ำอุ่นขึ้นทำให้ปลาแซลมอนต้องดิ้นรนกับความเครียดจากความร้อนและกำลังจะตาย
นักวิทยาศาสตร์พบว่ามีแซลมอลบางส่วนที่อพยพไปหาแหล่งน้ำแห่งใหม่ที่เย็นกว่า โดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำอาร์กติกที่พบปลาแซลมอนไปวางไข่มากขึ้น แต่การอพยพย้ายถิ่นมีค่าใช้จ่ายสูง มีความเสี่ยงที่จะถูกนักล่ากิน ทั้งยังสูญเสียพลังงานจากการว่ายน้ำเป็นระยะทางไกลจนอาจตายจากความเหนื่อยล้า ดังนั้น ไม่ว่าจะอพยพหรือทนอยู่ที่เดิม ก็ล้วนส่งผลให้แซลมอนมีจำนวนประชากรลดลงในเวลาอันรวดเร็ว
หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของปลาแซลมอนมากที่สุดคือบริเวณริมแม่น้ำยูคอน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่ใหญ่ที่สุดของอลาสกา มีต้นกำเนิดจากภูเขาชายฝั่งของแคนาดา และไหลเป็นระยะทาง 3,184 กม. และมีการประมงเชิงพาณิชย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุกคามจำนวนประชากรของแซลมอน
ขณะที่ชนเผ่าพื้นเมืองในบริเวณนั้นก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง พวกเขามองแซลมอนในฐานะเพื่อนบ้าน เป็นทั้งบรรพบุรุษและลูกหลานที่เติบโตมาพร้อมกัน พวกเขาเคยกินแซลมอนเป็นอาหารด้วยความเคารพต่อธรรมชาติ แต่ปัจจุบันเมื่อเกิดการขาดแคลนแซลมอน นั่นเท่ากับการขาดแคลนอาหารของพวกเขาด้วย ผู้นำชนเผ่าอลาสกาจึงรวมตัวกันเพื่อประณามเรือลากอวนอุตสาหกรรม ซึ่งโยนอวนขนาดใหญ่ลงทะเล ดักจับปลาแซลมอนขณะที่พวกมันยังอยู่ในมหาสมุทร ขัดขวางการอพยพกลับไปยังแม่น้ำบ้านเกิดอย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากภัยคุกคามจากเรือลากอวนแล้ว ปลาแซลมอนธรรมชาติยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นเพื่อแย่งชิงอาหารในมหาสมุทร เนื่องจากมีปลาแซลมอนในโรงเพาะฟักจำนวนมากที่เพาะเลี้ยงโดยชาวประมงซึ่งจะมีการปล่อยลูกปลาแซลมอน ประมาณ 900 ล้านตัว ในทุก ๆ ปี
อย่างไรก็ตาม ชาวพื้นเมืองยังเชื่อว่าประชากรปลาแซลมอนธรรมชาติยังสามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง แต่พวกเขาจำเป็นต้องปกป้องแหล่งน้ำที่อยู่อาศัยทุกที่ที่เป็นไปได้ เพื่อให้ปลาแซลมอนมีบ้านให้กลับมา และสามารถขยายพันธุ์ต่อไปได้
ที่มา: