รู้จัก "นักล่าทอร์นาโด" เสี่ยงอันตรายไขปริศนาธรรมชาติ
หลายคนอาจรู้จักกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า "นักล่าทอร์นาโด" จากภาพยนตร์หลายเรื่องที่เน้นแสดงให้เห็นความอันตรายจากภัยพิบัติชนิดนี้ แต่ภาพที่เกิดขึ้นในหนัง อาจเทียบไม่ได้เลยกับอันตรายที่พวกเขาได้เจอจริง ๆ แล้วทำไมถึงต้องเสี่ยงอันตรายขนาดนั้น?
SHORT CUT
- "นักล่าทอร์นาโด" คือกลุ่มนักอุตุนิยมวิทยาที่เสี่ยงชีวิตเพื่อศึกษาการก่อตัวของพายุทอร์นาโดอย่างใกล้ชิด
- พวกเขาหวังว่าจะได้ข้อมูลที่ช่วยให้สามารถคาดการณ์การเกิดทอร์นาโดอย่างแม่นยำมากขึ้น เพื่อการแจ้งเตือนประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ขณะที่ปัจจุบันก็มีบุคคลทั่วไปที่ออกไล่ล่าทอร์นาโดในฐานะนักล่าพายุสมัครเล่น ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้วย
หลายคนอาจรู้จักกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า "นักล่าทอร์นาโด" จากภาพยนตร์หลายเรื่องที่เน้นแสดงให้เห็นความอันตรายจากภัยพิบัติชนิดนี้ แต่ภาพที่เกิดขึ้นในหนัง อาจเทียบไม่ได้เลยกับอันตรายที่พวกเขาได้เจอจริง ๆ แล้วทำไมถึงต้องเสี่ยงอันตรายขนาดนั้น?
พายุทอร์นาโด คือหนึ่งในภัยพิบัติธรรมชาติที่ทำให้เกิดความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในทุก ๆ ปี โดยข้อมูลจากสำนักงานบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ ของสหรัฐฯ หรือ Noaa ระบุว่าในแต่ละปี สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโด ราว 908-1,818 ครั้ง เช่น เมื่อปี 2566 มีพายุทอร์นาโดเกิดขึ้นบ่อยถึง 1,423 ลูก คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 83 ราย
อย่างไรก็ตาม การก่อตัวของพายุทอร์นาโดเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมพายุฝนฟ้าคะนองบางครั้งทำให้เกิดพายุทอร์นาโดรุนแรง ในขณะที่บางครั้งไม่เป็นเช่นนั้น ยังคงเป็นปริศนาด้านอุตุนิยมวิทยา ที่นิยามให้ทอร์นาโดเป็นปรากฏการณ์ที่คาดเดาได้ยาก และอันตรายถึงชีวิต
นั่นทำให้บรรดานักอุตุนิยมวิทยาหลายคน ต้องยอมแบกรับความเสี่ยง ทำหน้าที่เป็น "นักล่าพายุทอร์นาโด" ค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับการก่อตัวของพวกมันเพื่อนำไปปรับปรุงระบบการคาดการณ์และการแจ้งเตือนประชาชนให้แม่นยำยิ่งขึ้น
พวกเขาใช้แบบจำลองสภาพอากาศทำนายสภาวะที่เหมาะสมที่สุดที่พายุทอร์นาโดจะก่อตัว จากนั้นก็ต้องไปรออยู่ในบริเวณดังกล่าว อาจต้องรอข้ามวันข้ามคืน หรืออาจต้องเปลี่ยนตำแหน่งไปตามสถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อเผชิญกับการก่อตัวของพายุทอร์นาโดที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น มีโอกาสไม่มากที่จะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ติดตามและวัดผลข้อมูลที่ต้องการได้สำเร็จ ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่พวกเขาก็มองว่ามันคุ้มค่า
สิ่งที่น่ากังวลคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อน ได้ส่งผลให้ฤดูพายุทอร์นาโดเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านระยะเวลาและสถานที่ ขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ที่สามารถเกิดพายุทอร์นาโดกำลังขยายตัว นั่นหมายถึงโอกาสที่พายุจะไปก่อตัวในรัฐที่มีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่น และสร้างความเสียหายที่สาหัสมากกว่าที่ผ่านมา
ขณะที่ปัจจุบัน ไม่ได้มีเพียงนักอุตุนิยมวิทยาเท่านั้นที่ออกไล่ล่าพายุ มีผู้คนมากขึ้นที่ออกไล่ล่าทอร์นาโดในฐานะนักล่าพายุสมัครเล่น ทั้งยังมีธุรกิจที่ให้บริการคล้ายบริษัททัวร์เพื่อนำทางคนทั่วไปในการไล่ล่าพายุด้วย
กิจกรรมดังกล่าวทำให้นักวิทยาศาสตร์ทำงานยากลำบากมากขึ้น ทั้งยังทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย อย่างไรก็ตาม นักอุตุนิยมวิทยาไม่สามารถขัดขวางนักล่าพายุสมัครเล่นได้ ทำได้เพียงคาดหวังให้พวกเขารับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อไล่ล่าพายุได้อย่างปลอดภัย
ที่มา:
