เมื่อโลกเดือด! คน 70 % ถามว่าบ้านร้อนทำยังไงดี? ร้อนจัดค่าไฟพุ่งทำไงดี

โลกร้อน โลกเดือด ทำให้ไทยได้รับผลกระทบอย่างแรง เห็นได้จากทุกวันนี้อากาศร้อนจัดอย่างมากมาย ทำเอาคน และสัตว์ต้องเอาต้องรอดให้ได้จะพิษสงของอากาศที่ร้อนจัดขนาดนี้ และมีแนวโน้มในอนาคตอาจร้อนต่อเนื่อง ถ้ายังไม่มีการแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยล่าสุดมีผลกระทบออกมาชัดเจน กรมอนามัย  รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจาก "อากาศร้อนจัด" ปี 2567 แล้ว 38 ราย พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และให้จับตา 4-6 พ.ค.67 คาดดัชนีความร้อนระดับอันตรายมาก 12 จังหวัด

 

เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่น่าเศร้ามากสำหรับอากาศที่ร้อนจัด ถึงขั้นมีคนเสียชีวิตขนาดนี้ แต่… เชื่อว่าหลายคนกำลังหาวิธีรับมือกับอากาศที่ร้อนอยู่ หนึ่งในวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง ก็คือ การมีบ้านที่ปลอดภัย และรับมือกับโลกร้อนได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จะทำให้บ้านรักษ์โลกมาแรงในตอนนี้ และผู้ประกอบการในวงการอสังหาริมทรัพย์ และวงการสถาปนิกไทย ต้องออกแบบบ้านให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภค ในยุคที่โลกร้อนขนาดนี้ โดย “ดร.พร้อม อุดมเดช” ประธานจัดงานสถาปนิก’67 เปิดเผยว่า ปัจจุบันวงการสถาปนิกไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อนอย่างมาก เรียกได้ว่าไม่ใช่เทรนด์ แต่…มันคือสิ่งที่ทุกแบรนด์ต้องทำ ขาดไม่ได้ มองข้ามไม่ได้

 

ทั้งนี้เพื่อรองรับกลุ่มผู้บริโภคในยุคโลกเดือดต้องการหาวิธีรับมือโลกร้อน จากการสำรวจในงานสถาปนิก'67 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36  พบว่า ประชาชนกว่า 70 % เข้ามาสอบถามว่า บ้านร้อนทำยังไงดี?  และร้อนจัดค่าไฟพุ่งทำไงดี ? นี่คือคำถามสุดฮอตฮิตที่ผู้บริโภคถามมากที่สุด และเป็นโจทย์ใหญ่ที่วงการบ้าน และสถาปนิกไทย ต้องสร้างบ้าน ออกแบบบ้านมารองรับปัญหาเหล่านี้ เรียกได้ว่าหากแบรนด์ไหนสามารถแก้ Pain point จุดนี้ได้ก็จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดได้มหาศาล

นอกจากนี้คนยังมองอีกว่าหากสิ้นเอลนีโญ ไทยจะเจอลานีญาอีก และทำให้ฝนตกชุก น้ำมีปริมาณมาก คนก็จะหาทางเลือกบ้านที่รับมือกับลานีญาด้วย จากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้คนส่วนใจเข้าร่วมงานสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36 อย่างคึกคัก เพื่อหาทางรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และจากการสำรวจยังพบอีกว่า คนยอมจ่ายเงินมากขึ้นหากจะทำให้พวกเขาได้บ้านที่รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามสำหรับการแข่งขันในธุรกิจสถาปนิกไทย จากนี้ไปทุกแบรนด์จะแข่งกันเรื่องแนวทางต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ความคิดสร้างสรรค์ ราคา และเทคโนโลยี  เพราะเทรนด์ผู้บริโภคจะมาแรง เรื่องบ้านรักษ์โลก บ้านรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ นอกจากนี้ยังพบว่า เทคโนโลยี AI มีความสำคัญมากกับวงการสถาปนิกไทย หลายบริษัทเริ่มใช่ AI มาประมวลผล Generate Data

อีกทั้งยังนำ AI มาใช้ในเรื่องของการสร้างสรรค์ แต่ยังพบว่า AI ยังไม่มีประสิทธิภาพในการทำเชิงลึกได้ เช่น การเข้าถึงการทำงานทำเอกสารขออนุญาตก่อสร้าง แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน AI จะทำงานได้เชิงลึกได้มากขึ้น และการสำรวจยังพบอีกว่า แบรนด์ให้ความสำคัญกับข้อมูล ดาต้า ตัวเลขสถิติ ที่จะนำไปสู่การคำนวณคาร์บอนเครดิต ได้ในอนาคตอันใกล้ที่ไทยจะต้องรับมือเรื่อง CBAM

สำหรับแผนการรักษ์โลกของวงการสถาปนิกไทย ปัจจุบันมีหลายแบรนด์หันมาใช้ โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) พลังงานไฮโดรเจน ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น หันมาใช้รถ EV เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับงานสถาปนิก'67 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36 มีแบรนด์หลากหลายทัพนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการเพื่องานออกแบบ-ก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์ กว่า 100,000 รายการ จากแบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศจำนวน 1,000 ราย บนพื้นที่ 75,000 ตร.ม. คาดมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 325,000 คน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 22,000 ล้านบาท

ทั้งหมด คือเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของผู้คนที่กำลังหาวิธีสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน เพื่อรับมือโลกเดือด และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่โลกกำลังเผชิญ นับว่าเป็นโจทย์ใหญ่ของวงการสถาปนิกไทย !

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• บ้านรักษ์โลกวัสดุก่อสร้างจากใยกัญชง คาร์บอนต่ำ ดีต่อสุขภาพ

• ส่อง “บ้านรักษ์โลก” ธุรกิจที่มาแรงไม่หยุด โครงการไหน ทำเลใด ปังสุด!

• บ้านรักษ์โลก คอนโดรักษ์โลก มาแรง! “ศุภาลัย” เปิดแผนธุรกิจสีเขียว