ฟักทอง ไอเทมวันฮาโลวัน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทุกฮาโลวีน แต่รู้ไหมว่าฟักทองอาจเป็นขยะอาหารที่สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมมากที่สุด จากการศึกษาของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษพบว่า 95% ฟักทองแค่ในช่วงเทศกาลฮาโลวีนถูกโยนทิ้งเป็น Food Waste กว่าหมื่นตันโดยไม่ได้นำมาทำประโยชน์
สำหรับเทศกาลฮาโลวีน ฟักทองแกะสลักใบหน้าผีๆ เป็นประเพณีที่พบเห็นได้แทบจะทุกที่ในวันฮาโลวีน แต่รู้ไหมว่าฟักทองอาจสร้างผลกระทบร้ายแรงให้กับสิ่งแวดล้อม โดยในทุกปีมีการปลูกฟักทอง 10 ล้านลูกในสหราชอาณาจักรซึ่งในจำนวนนี้ 95% ถูกใช้ในวันฮาโลวีนแล้วโยนทิ้งทำให้เกิดขยะอาหารถึง 18,000 ตัน
ขณะที่ในสหรัฐอเมริกาก็ประสบปัญหาขยะอาหารจากเทศกาลฮาโลวีนเช่นเดียวกัน ซึ่งฟักทองส่วนใหญ่ที่ผลิตได้ 900,000 ตันต่อปีจะถูกนำไปทิ้งในถังขยะแทนที่จะนำไปใช้เป็นอาหารหรือปุ๋ยหมัก โดยขยะอาหารทั่วโลกจำนวน 1.3 พันล้านตันที่เกิดขึ้นในแต่ละปี พบว่าผักและผลไม้มีอัตราการทิ้งอาหารมากที่สุด
ไม่ใช่แค่เศษอาหารจากเทศกาลฮาโลวีนเท่านั้นที่นักวิทยาศาสตร์กังวล กระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริการะบุว่าฟักทองที่ถูกฝังกลบจะสลายตัวและปล่อยก๊าซมีเทนออกมาในที่สุด ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 20 เท่า
นักวิจัยเผยว่าหลังจากเทศกาลฮาโลวีนแล้วอยากให้นำฟักทองมาทำประโยชน์มากกว่าการทิ้งให้เป็นขยะอาหารซึ่งทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก สาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน ควรนำฟักทองซึ่งมีประโยชน์มากมายกับทั้งเรื่องสุขภาพและสามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ด้วย
แทนที่จะให้ฟักทองในช่วงเทศกาลฮาโลวีนเป็น Food Waste ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก เราสามารถเปลี่ยนฟักทองเป็นพลังงานได้ผ่านการย่อยแบบไม่ใช้ออกซิเจน โดยที่จุลินทรีย์จะถูกนำมาใช้เพื่อย่อยสลายของเสียอินทรีย์ในถังปิดผนึกด้วยอากาศซึ่งได้รับความร้อนเพื่อเร่งกระบวนการ ก๊าซชีวภาพที่เกิดขึ้นสามารถนำไปใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในบ้าน ใช้ขับเคลื่อนยานพาหนะ และผลิตความร้อนได้
ที่มา : World Economic Forum
เนื้อหาที่น่าสนใจ :