หลังจากเกิดปรากฏการณ์ "พายุงวงช้าง" พัดเรือนักท่องเที่ยวจมทะเล จ.เพชรบุรี เมื่อวานนี้ 12 ส.ค.66 วันนี้จะพามารู้จัก ! "พายุงวงช้าง" เกิดได้อย่างไร ทำอันตรายได้แค่ไหน ?
หลังจากเกิดปรากฏการณ์ "พายุงวงช้าง" เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ส.ค.66 ที่ผ่านมา โดยพายุดังกล่าวได้สร้างความรุนแรงพาให้เรือของนักท่องเที่ยวลอยจากน้ำและพลิกคว่ำทันที โดยเหตุเกิดที่ปากอ่าวบางตะบูน ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ความคืบหน้าล่าสุด ชุดกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จ.เพชรบุรี รายงานว่า พบศพนักท่องเที่ยวที่เรือถูกพายุงวงช้างพัดจมปากอ่าวบางตะบูนแล้ว 1 ศพ หลังผ่านไปกว่า 16 ชั่วโมง ลอยขึ้นผิวน้ำ
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนหลายคนเริ่มมีความหวาดกลัวพายุงวงช้าง โดยวันนี้ #สปริงนิวส์ จะพาไปทำความรู้จัก ! "พายุงวงช้าง" เกิดได้อย่างไร และมันทำอันตรายได้แค่ไหน? ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (LESA) เปิดเผยข้อมูลว่า พายุลมงวง หรือพายุงวงช้าง เป็นอากาศร้ายรุนแรงที่สุดซึ่งเกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง เมื่อลมร้อนและลมเย็นมาเจอกันและก่อตัวให้เกิดลมหมุนด้วยความเร็วประมาณ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เผยคลิประทึก! 'พายุงวงช้าง' ก่อตัวหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ก่อนฝนตกหนัก
เผยคลิป "พายุงวงช้าง" โผล่ในทะเล ใกล้เกาะหนู-เกาะแมว จ.สงขลา
สมุทรปราการเละ ! โดน 'พายุงวงช้าง' ถล่มบ้าน-รถยนต์เสียหายเพียบ
ทั้งนี้พายุงวงช้างจึงมีลักษณะการหมุนบิดเป็นเกลียว เป็นลำเหมือนงวงช้างยื่นออกมาจากฐานเมฆคิวมูโลนิมบัส มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 300 เมตร โดยที่เมฆคิวมูโลนิมบัส 1 ก้อน อาจทำให้เกิดลมงวงได้พร้อมๆ ทีละหลายงวงลม งวงสามารถดึงดูดทุกสิ่งที่อยู่ตามเส้นทางที่พายุเคลื่อนที่ไป พายุลมงวงมักจะเกิดในที่ราบกว้างใหญ่ ถ้าเกิดขึ้นในพื้นที่ราบตอนกลางประเทศสหรัฐอเมริกาเรียกว่า"พายุทอร์นาโด" (Tornado) ซึ่งแบ่งระดับความรุนแรงตามความเร็วลม 5 ลำดับโดยยึดตาม Fujita scale ดังนี้
อย่างไรก็ตามพายุลมงวงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มีลักษณะเป็นพายุลมงวงขนาดเล็กเกิดขึ้นเหนือพื้นน้ำเรียกว่า "นาคเล่นน้ำ" (Water sprouts) เกิดจากเมฆพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงที่มีฐานเมฆต่ำและมีกระแสอากาศไหลลงรุนแรง จนเกิดเมฆเป็นลำพวยพุ่งลงมาจนใกล้ผิวทะเล และดูดน้ำจนเป็นลำพุ่งขึ้นไปรวมตัวกับก้อนเมฆในอากาศ เช่นเดียวกับพายุทอร์นาโด นาคเล่นน้ำมักเกิดขึ้นหลายๆ งวงพร้อมๆ กันจากฐานเมฆคิวมูโลนิมบัสก้อนเดียวกัน
ซึ่งพายุงวงช้างจะคล้ายกับพายุทอร์นาโด แต่จะมีความแตกต่างที่พายุทอร์นาโด มักเกิดขึ้นเหนือพื้นดินที่ร้อนถึงร้อนจัด ส่วนพายุงวงช้างที่เกิดเหนือพื้นน้ำ ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่าพายุทอร์นาโดมาก โดยมักเกิดบ่อยบนพื้นน้ำในเขตโซนร้อน โดยประเทศไทยขณะที่ช่วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์นี้กินเวลาไม่นานมากส่วนใหญ่ประมาณ 10-100 เมตร แต่บางครั้งยาวมากถึง 600 เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง พบได้ตั้งแต่ 1 เมตร ไปจนถึงหลายสิบเมตร ซึ่งพายุงวงช้างมีระยะเวลาเพียง 2-30 นาที และจะสลายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อขึ้นไปสู่ฝั่ง