AI พยากรณ์อากาศสุดล้ำกำลังเกิด แต่ถูกโลกร้อนคุมกำเนิดซะก่อน อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ แม้แต่เอไอที่ชาญฉลาด นักวิทย์เผย โลกร้อน อาจทำให้ปัญญาประดิษฐ์พยากรณ์อากาศยากขึ้น
ในขณะที่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่าง AI กำลังก่อตัวไปข้างหน้าอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะการพยากรณ์อากาศที่ทำนายความคล่องตัวให้ผู้คนก่อนออกจากบ้านมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษก็กำลังฉลาดมากขึ้น
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature เผยว่า ศักยภาพด้านการพยากรณ์อากาศของ AI รุ่นใหม่ มีความสามารถในการให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและแม่นยำกว่าแบบจำลองดั้งเดิม ยกตัวอย่าง แบบจำลองที่ชื่อว่า Pangu-Weather ที่พัฒนาโดยนักวิจัยของบริษัทเทคโนโลยีของจีนอย่าง Huawei Technologies Co. Ltd.
Pangu สามารถตรวจวัดอุณหภูมิและความเร็วลมได้ล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งให้ผลลัพธ์เร็วกว่ารุ่นทั่วไปถึง 10,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถติดตามเส้นทางของพายุหมุนเขตร้อนได้แม่นยำกว่าศูนย์พยากรณ์อากาศชั้นนำของโลกซะอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประธานาธิบดีเกาหลีรับ โลกรวนคือความจริง หลังน้ำท่วมเกาหลีใต้ทำคนดับ 40 ราย
Google FloodHub เช็กพยากรณ์น้ำท่วมด้วย AI ก่อนออกเดินทาง ใช้ได้ในไทยแล้ว
อาลีบาบา หัวเว่ย เร่งพัฒนา Tongyi Wanxiang และ Panggu หวังชิงเบอร์หนึ่งโลก
AI พยากรณ์อากาศอีกหนึ่งที่น่าสนใจคือ NowcastNet เป็นโปรแกรมที่เชี่ยวชาญในการคาดการณ์ระยะสั้น ซึ่งใช้เวลาสูงสุดเพียงไม่กี่ชั่วโมงในอนาคต ซึ่งดูเหมือนจะเหนือกว่าคู่แข่งชั้นนำหลายรายเช่นเดียวกัน
หากเทียบกับการพยากรณ์แบบเดิมที่ใช้การพยากรณ์แบบตัวเลข เป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ประเภทหนึ่งที่ใช้สมการซับซ้อนเพื่อทำนายการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเมื่อเวลาผ่านไป มันใช้พลังการคำนวณจำนวนระดับสูงมาก จึงมีราคาแพงและใช้เวลานานมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้การพยากรณ์คาดเคลื่อนได้ หากคำนวณไม่ดี
แต่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถทดแทนปัญหาเหล่านั้นได้ เพราะพวกมันไม่จำเป็นต้องใช้สมการทางคณิตศาสตร์ แต่พวกมันรับข้อมูลสภาพอากาศที่ถูกบันทึกในอดีตจำนวนมาก เรียนรู้และจดจำรูปแบบต่าง ๆ ของสภาพอากาศที่เคยเกิดขึ้น จากนั้นจึงใช้รูปแบบนั้น ๆ มาคาดการณ์โดยผนวกกับข้อมูลอากาศรูปแบบใหม่ในปัจจุบัน โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ ราคาที่ถูกลง และรวดเร็วมากขึ้น
โลกร้อน ทำให้ AI ทำงานยากขึ้น
ในขณะที่ AI ชาญฉลาดมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็รุนแรงมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า โมเดล AI รุ่นใหม่อาจประสบปัญหาในการจำลองเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เพราะไม่ว่าจะเป็น AI หรือมนุษย์ก็ยังไม่เคยเผชิญกับความรุนแรงของสภาพอากาศแบบนี้มาก่อน AI จึงอาจไม่สามารถพยากรณ์อากาศได้แม่นยำนัก
คลื่นความร้อน ภัยแล้ง พายุเฮอริเคน ไฟป่า และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน ล้วนทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้น
ความสำคัญของการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ จะช่วยให้ผู้มีอำนวจตัดสินใจในการประกาศด้านความปลอดภัยสาธารณะหรืออำนวยความสะดวกในการอพยพโดยมีเวลาเพียงพอในการปกป้องประชากรที่เปราะบาง
นั่นหมายความว่า หาก AI มีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะจำลองเหตุการณ์สุดขั้วในอนาคตได้อย่างแม่นยำ และพวกมันเผชิญกับสภาพอากาศที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากว่าในอนาคตเราจะต้องเจอกับอะไรบ้างและจะเตรียมตัวอย่างไร
นี่จึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับการพยากรณ์อากาศ ที่นักจำลองหรือนักพัฒนาจำเป็นที่จะต้องออกแบบ AI ให้สามารถพยากรณ์เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้เป็นไปได้ นอกเหนือจากข้อมูลชุดเก่าที่ป้อนให้ AI คำนวณออกมา
ที่มาข้อมูล