อนาคตประเทศไทย นวัตกรรมเคลื่อนขับเคลื่อนไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พูดถึงนโยบายเกี่ยวกับนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม โดย ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา ได้กล่าวถึง Carbon Credity Center หรือตลาดซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต
พรรคชาติไทยพัฒนา มีโอกาสพูดในงาน 'อนาคตประเทศไทย นวัตกรรมเคลื่อนขับเคลื่อนไทย' ในหัวข้อเกี่ยวกับ นวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา ได้กล่าวดังนี้
พรรคชาติไทยพัฒนา เชื่อว่า การแก้ไขปัญหาของประเทศด้วยนวัตกรรมสามารถทำให้ผลสำเร็จจากก้าวกระโดดได้ เพื่อสร้างรายได้ใหม่จากสิ่งแวดล้อมไทยสู่สิ่งแวดล้อมโลก
นวัตกรรมเพื่อความมั่นคงโอกาสและคุณภาพชีวิตของคนไทย ล่าสุดประเทศไทยจัดรายงาน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก 372 ล้านตัน ถูกตรึงไว้เพียง 92 ล้านตัน เราปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนได้รับความอันตราย สู่เหตุภัยพิบัติเช่น น้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาต้องการให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยหลักการ 'หากปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะต้องจ่ายเงิน และหากตรึงไว้หรือไม่ปล่อยจะได้รับเงิน'
พรรคชาติไทยพัฒนา ต้องการสร้างนวัตกรรม ที่ทำให้คนที่ตรึงก๊าซได้เงิน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ หรือคาร์บอนเครดิต
พรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งใจที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านคาร์บอนเครดิต และต่อยอดไปสู่ Asia Pacific Carbon Credit Center ด้วยหลักการดังนี้
1.การวัดประเมินและรับรองมาตรฐานคาร์บอนเครดิต วัดระดับ Tier 3 ซึ่งสูงสุด สามารถวัดด้วยดาวเทียม วัดต้นได้ทุกชนิด ได้ทุกแปลงบนแผ่นดินไทยตลอดทั้งปี การวัดระดับภาคพื้นดิน เสาสัญญาณ วัดคาร์บอนเน็ตได้ตลอดเวลา และคาร์บอนที่อยู่ในดินด้วย และสุดท้ายนำผลการวัดจากดาวเทียมเปรียบเทียบกันและคำนวณด้วยต้นแบบทางคณิตศาสตร์ที่แม่นยำ
2.ตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต ผ่าน CArbon Credit Token (CCT) โดยใช้ Blockchain Technology
การเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต เป็นฐานข้อมูลที่ยืนยันความเป็นเจ้าของแต่ละคนได้ เป็นสินทรัยพ์ที่สามารถซื้อขายได้ รวมทั้งมีระบบ Clearing House หรือศูนย์กลางที่ซื้อขายและจ่ายเงินได้
3.การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี สู่การเป็น Excellence Center และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่พื้นที่ทั่วไทย และการวัดคาร์บอนจะมีค่าใช้จ่ายน้อยลง เกษตรกรและชาวไร่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น การเข้าใจและร่วมมือจะมากขึ้น การสร้างเครือข่ายในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกและเวทีโลก, การเจรจาต่อรองระหว่างประเทศจะง่ายขึ้น
การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการจัดการ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คาร์บอนเครดิต , ซื้อขายคาร์บอนเครดิตพัฒนาและวิจัยในด้านสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมการเมืองระหว่างประเทศไทย เพื่อสร้างความเป็นธรรมระหว่างประเทศไทย ที่จะนำไปสู่การเป็นผู้นำในเวทีโลกในด้านลดการปล่อย CO2
ประโยชน์ที่จะได้จากนวัตกรรมเหล่านี้ มีอะไรบ้าง?
โดยพรรคพัฒนากล้าได้พูดถึงงบประมาณที่ประเทศไทยไทยจะต้องลงทุนเรื่องนี้อยู่ที่ 7,000-10,000 ล้านบาท เพื่อวัดคาร์บอนในระดับสูงสุดหรือ Tier 3 เ่พือสร้างมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อเป็นรายได้ของประเทศและเกษตรกรไทย
ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของพรรคชาติไทยพัฒนา คือ Carbon Credity Center (CCC) เพื่อเป็นนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เวทีโลกและความสำเร็จใหม่ๆในอนาคต