ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ในที่นี้ไม่ใช่ชื่อคน แต่เป็นชื่องูสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกพบในปานามา นักวิทย์ประกาศพบงู 5 สายพันธุ์ที่ไม่เคยค้นพบมาก่อน แต่กำลังถูกคุกคามจากเหมืองทอง
สัตว์หลายชนิดกำลังสูญพันธุ์หายไปจากโลก แต่ในทางกลับกันก็มีสัตว์อีกหลายชนิดที่มนุษย์เพิ่งค้นพบว่า พวกมันก็มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ได้เพิ่งค้นพบงู 5 สายพันธุ์ใหม่ที่ไม่มีเคยพบเจอมาก่อนในป่าฝนของแอมะซอน
รายงานการศึกษาชิ้นใหม่ได้ตีพิมพ์ไว้ในวารสาร ZooKeys และ EurekAlert ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 และ 27 มกราคมที่ผ่านมา ว่าพบงูสายพันธุ์ใหม่ 5 ชนิด เป็นงูกินหอยทากเกือบทั้งสิ้น แต่มีงูตัวหนึ่งที่โดดเด่นมากในงานวิจัยชิ้นนี้ นั่นคือ งูที่มีดวงตากลมโตสีเหมือนถ่านที่ไฟลุกโชนอยู่ ซึ่งมันได้รับชื่อมาจากนักแสดงชื่อดังที่พ่วงตำแหน่งนักอนุรักษ์สุดโต่งอย่าง ลีโอนาร์โ ดิคาปริโอ นั่นจึงทำให้งูตัวนี้มีชื่อทางการว่า S. irmelindicaprioae
ลีโอนาร์โดที่เป็นคนตั้งชื่อนี้เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ที่รัก นั่นคือ แม่ของเขาเอง เออร์เมลิน อินเดนเบียร์เคน (Irmelin Indenbirken) ส่วนลีโอนาร์โดที่เป็นงู ตัวนี้มีความยาวประมาณ 15 นิ้ว (38 เซนติเมตร) ถูกพบในขณะที่กำลังเลื้อยอยู่ท่ามกลางพุ้มไม้ในป่าเชิงเขาของปานามา
ส่วนอีก 4 สายพันธุ์ที่เหลือ ได้แก่ งูกินหอยทากทรงพุ่ม (Sibon canopy) / งูกินหอยทากของมาร์เลย์ (Sibon marleyae) / งูกินหอยทากวิเอรา (Sibon vieirai) / และ งูกินหอยทากเวลบอร์น (Dipsas welborni)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แอกโซลอเติล สัตว์ที่สร้างหัวใจใหม่ได้ ใกล้สูญพันธุ์ เพราะเมืองขยายตัว
นักวิทย์ไทยประกาศภาคภูมิ ค้นพบสัตว์ 4 ชนิดใหม่ของโลกที่โคราช
"หมีขั้วโลก" กำลังกลายเป็นสัตว์ไร้บ้านถาวร ประชากรลดลง ผลพวงภาวะโลกร้อน
ในงานวิจัยชิ้นนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิเคราะห์ลำดับดีเอ็นเอของงูทั้ง 343 ลำดับ และได้ข้อสรุปว่า งูทั้ง 5 สายพันธุ์มีความแตกต่างจากญาติสนิทของพวกมันมากพอสมควร ทั้งในด้านรูปร่างหน้าตาและพันธุกรรม พวกมันมีคุณสมบัติมากพอที่จะเป็นสายพันธุ์ใหม่ เช่น งูดิคาปริโอ ดูภายนอกรูปร่างไม่ต่างจาก Siphonops annulatus แต่มันก็ต่างพันธุกรรมกัน นอกจานี้สปีชีส์ทั้งสองยังมีรูปแบบสีที่แตกต่างกันตามหลังและหัว นั่นเลยทำให้พวกมันไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
งูเพิ่งถูกพบ แต่ก็กำลังถูกคุกคาม เกิดอะไรขึ้น?
นักวิทย์เล่าว่า การค้นพบงูทั้ง 5 สายพันธุ์เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก พวกมันเป็นเพียงส่วนเล็กเท่านั้นของป่าแถบนี้ ซึ่งมีการสำรวจไปเพียงไม่เปอร์เซ็น นั่นเลยทำให้นักวิทย์เชื่อว่า ยังมีสายพันธุ์สัตว์อีกมากมายรอการค้นพบอยู่ในป่าลึก
แต่ในทางกลับกัน ช่างน่าเสียดายเหลือเกินสำหรับงูทั้ง 5 สายพันธุ์นี้ เพราะการค้นพบครั้งนี้นอกจากเราจะได้รู้จักพวกมันแล้ว เรายังรู้ด้วยว่า พวกมันกำลังถูกคุกคามจากมนุษย์ด้วย และเสี่ยงที่จะสูญหายไปได้
อย่างที่ทราบกันดีว่า ป่าแถบแอมะซอนหรือในอเมริกากลางนั้น มีการลักลอกตัดต้นไม้และรุกพื้นที่ป่าอย่างผิดกฎหมายอยู่เยอะ แถมยังเป็นแหล่งสัมปทานเหมืองผิดกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ ผู้เขียนงานวิจัยเผยว่า ในความคิดของเขานั้น งูดิคาปริโอ สามารถเข้าเกณฑ์ของ International Union for Conservation of Nature ในฐานะสัตว์ “เกือบถูกคุกคาม” ได้
เนื่องจากงูทั้ง 5 สายพันธุ์อาศัยอยู่บนต้นไม้ใกล้ ๆ กับอาณาบริเวณของการทำเหมืองทองคำและทองแดง ที่กำลังรุกคืบทำลายพื้นที่ป่าฝนซึ่งเป็นบ้านของงูทั้ง 5 สายพันธุ์ หากพื้นที่ป่าหายไป พวกมันก็จะหายตามไปด้วย เนื่องจากอาหารหมด ไม่มีป่าให้พึ่งพาเป็นที่อยู่อาศัย หอยทากก็ลดลง เนื่องจากมลพิษที่ไหลตามลำธารจากการทำเหมือง โดยเฉพาะในเอกวาดอร์และโคลอมเบีย ซึ่งมีเหมืองทองผิดกฎหมายเปิดใช้งานอยู่เยอะมาก
งานวิจัยชิ้นนี้นำโดย Alejandro Arteaga นักชีววิทยาชาวเอกวาดอร์ ผู้ได้รับทุน Explorers Club Discovery Expedition Grantee และ Abel Batista นักชีววิทยาชาวปานามา พวกเขายังเล่าอีกว่า ในสมัยที่พวกเขายังสำรวจป่าฝนของแม่น้ำ Nangaritza เป็นครั้งแรกในปี 2014 ที่แห่งนี้เหมือนกับสวรรค์ที่สวยงามมาก ยังไม่มีการถูกค้นพบ ยังไม่มีการทำลาย
อันที่จริง ที่นี่ยังถูกขนานนามอีกด้วยว่า Nuevo Paraíso ในภาษาสเปนที่มีความหมายว่า New Paradise หรือ สวรรค์แห่งใหม่ แต่ในตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว นักขุดทองผิดกฎหมายหลายร้อยคนได้บุกยึดครองที่เหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันจากป่าไม้ชุ่มชื้นกลายเป็นเศษหินไปเรียบร้อยแล้ว
ในช่วงการระบาดของโควิด-19 การขยายตัวของการทำเหมืองทองคำและทองแดงแบบเปิดอย่างผิดกฎหมายในป่าของเอกวาดอร์ โคลอมเบีย และปานามา ถึงขั้นวิกฤตและกำลังทำลายประชากรงูที่อาศัยอยู่บนต้นไม้
งูกินหอยทากในเขตร้อนชื้น (จำพวก Sibon และ Dipsas) มีวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนใครซึ่งทำให้พวกมันมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการขุดทองและทองแดงเป็นพิเศษ ประการแรก พวกมันอยู่ตามต้นไม้ ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถอยู่รอดได้ในพื้นที่ที่ไม่มีพืชพรรณ เช่น ในเหมืองเปิด ประการที่สอง พวกมันกินเฉพาะหอยทาก ซึ่งเป็นเหยื่อประเภทลำตัวนิ่มที่เกิดขึ้นตามลำธารและแม่น้ำเป็นส่วนใหญ่ และน่าจะลดลงเนื่องจากมลพิษของแหล่งน้ำ
โลกมืดของการทำเหมืองในอเมริกากลางยังมีเรื่องดำมืออีกมากมาย สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> EurekAlert
ที่มาข้อมูล