ส่องเมกะโปรเจ็กต์อินเดีย โรงไฟฟ้าพลังงานลม แสงอาทิตย์ ใหญ่กว่าปารีส 5 เท่า
อินเดีย สร้างโรงงานไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ใหญ่กว่ากรุงปารีส 5 เท่า ตั้งอยู่บนพื้นที่ตึงเครียดสูง พรมแดนอินเดีย ปากีสถาน ผลิตไฟฟ้าได้ 30 กิกะตันต่อปี จ่ายไฟให้บ้านได้ 16 ล้านหลังคาเรือน
ใหญ่กว่ากรุงปารีส 5 เท่า
มองเห็นได้จากอวกาศ
จ่ายไฟให้สวิตเซอร์แลนด์ได้ทั้งประเทศ
นี่คือคำนิยามขุมพลังโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่ “ใหญ่ที่สุดในโลก” อินเดียส่งเข้าประกวด!
Sagar Adani ซีอีโอจาก Adani Green Energy Limited (AGEL) เผยเมกะโปรเจกต์ ลงทุน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เปลี่ยนทะเลทรายเกลือในรัฐคุชราต อินเดีย ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนอินเดีย - ปากีสถาน พื้นที่กว่า 517 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 5 ปี
Adani Green Energy Limited คือบริษัทพลังงานหมุนเวียนในเครือ Adani Group โดย Gautam Adani เศรษฐีอินเดีย ที่ครองทรัพย์สินมากกว่า 1.13 แสนล้านเหรียญ มั่งคั่งจนแซงหน้า Bill Gates กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 4 ของโลก (ปี 2022)
สำหรับคำถามที่หลายคนสงสัยคือ ป่าไม้ และสรรพสัตว์ ต้องขับไล่ทำลายจนหมดใช่หรือไม่ ซีอีโอเศรษฐีพันล้านผู้นี้เผยว่า “พื้นที่แห่งนี้ใหญ่มาก ไม่มีสัตว์ป่า ไม่มีพืชพรรณ และไม่มีคนคนอยู่อาศัย พื้นที่นี้เพอร์เฟกต์มาก ๆ”
ทั้งนี้ Sagar Adani เผยอีกว่า สาเหตุที่เลือกลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนก็เพื่อตอบโจทย์ชนชั้นกลางและคนระดับ 1% ของประเทศ รวมถึงเทรนด์ในอนาคตที่คนจะเปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ย้อนกลับไปในปี 2021 นเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ให้คำมั่นว่า อินเดียจะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจุกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2573 โดยมีพลังงานหมุนเวียนเป็นขุมพลังสำคัญ ซึ่งรัฐบาลอินเดียตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าให้ได้ 500 กิกะวัตต์ต่อปี
Adani Green Energy Limited ในฐานะบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ตั้งเป้าว่าจะผลิตพลังงานให้ได้ 9% (45 กิกะวัตต์) ของตัวเลขที่ภาครัฐกำหนดเอาไว้ ซึ่งหากโรงไฟฟ้าแห่งใหม่แห่งนี้สำเร็จ จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 30 กิกะวัตต์ต่อปี
ทั้งนี้ อินเดียยังคงใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก โดยเฉพาะถ่านหิน ซึ่งปัจจุบันผลิตไฟฟ้าให้กับอินเดียมากกว่า 70% ขณะที่ พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานหมุนเวียนคิดเป็นสัดส่วน 10% ทำให้อินเดียโผล่อยู่อันดับ 3 สำหรับประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก อันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
ที่มา: CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
