พาดู ! ผลศึกษาสุดเวิร์คถนนพลาสติกรีไซเคิล โดยมช. ที่ทำถนนพลาสติกรีไซเคิล ไม่ก่อผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทดสอบบนถนนภาครัฐก่อนสร้างจริง ต้านทานการกัดเซาะ น้ำ ความชื้น สร้างถนน 1 กม. ใช้ขยะพลาสติก 300-600 กก. ช่วยลดปล่อยคาร์บอน
ใครๆก็รักษ์โลก เพราะโลกใบนี้มีเพียงใบเดียว ดังนั้นองค์กรจึงร่วมกิจกรรมที่เป็นการลดขยะ และทำให้โลกของร้อนน้อยที่สุด ล่าสุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับภาคเอกชน ทำการศึกษาวิจัยเจาะลึก เพื่อสร้างกระบวนการในการนำพลาสติกใช้แล้วมาประยุกต์ใช้สร้างถนนให้เหมาะสมกับกระบวนการที่ใช้ประเทศไทย รวมทั้งศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการแถลงผลการศึกษาของเฟส 1 ไปซึ่งมีผลดีที่น่าพอใจ พร้อมทั้งกำลังทำการศึกษาวิจัยต่อยอดในถนนทดลองจริงของภาครัฐ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนสำหรับสร้างเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานที่ได้รับอนุญาตให้ใช้กับการสร้างถนนของภาครัฐต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
LINE MAN ลดขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียว 3,286 ตัน จากฟีเจอร์ไม่รับช้อนพลาสติก
ขยะพลาสติกสู่นวัตกรรมเสื้อเกราะกันกระสุน น้ำหนักเบา ประสิทธิภาพดี
สหรัฐฯทดลอง ทำแก้วดินเผาแบบใช้แล้วทิ้งจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ลดขยะพลาสติก
โดยผลการศึกษานวัตกรรมถนนพลาสติก Paving Green Road Study เฟส 1 ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีการประเมินผลของการใช้พลาสติกเป็นส่วนผสมของถนนยางมะตอย รวมถึงผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศและน้ำ ความสามารถในการรีไซเคิล และคุณสมบัติเชิงกลศาสตร์ของยางมะตอย จากผลการศึกษาเฟสแรกในห้องทดลอง พบว่า พลาสติกรีไซเคิลที่นำมาเป็นส่วนผสมของการทำพื้นถนน ไม่พบสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่มีความแข็งแรงของถนนดีขึ้นและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น มีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ถนน และประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
สำหรับเฟสต่อไปของโครงการฯ จะก้าวเข้าสู่การทดลองบนถนนจริง ซึ่งต้องขอขอบคุณกรมทางหลวงชนบทที่ได้จัดสรร ถนนส่วนหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ให้ใช้ในการทดสอบ และเมื่อการทดสอบบนท้องถนนจริงประสบความสำเร็จ ก็จะสามารถสร้างตลาดใหม่เพื่อรองรับขยะพลาสติก และกลายเป็นช่องทางในการกำจัดขยะพลาสติกจากสิ่งแวดล้อมได้ ทั้งนี้ จะมีการเผยแพร่การศึกษาวิจัยในครั้งนี้สู่สาธารณะชนในรูปแบบ open source เพื่อประโยชน์ในการจัดการพลาสติกอย่างยั่งยืนต่อไป
รศ.ดร.พีรพงศ์ จิตเสงี่ยม หัวหน้าคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การทดสอบในห้องทดลองมีการประเมินผล 4 ด้านหลัก ได้แก่ ปริมาณไมโครพลาสติกในอากาศ การปนเปื้อนพลาสติกในน้ำ คุณสมบัติด้านวิศวกรรมของแอสฟัลต์ผสมพลาสติก และความสามารถในการนำมารีไซเคิล ซึ่งผลการทดสอบในแบบจำลองห้องทดลองในเฟสแรก พบว่า วัสดุผสมระหว่างพลาสติกและหินร้อนยางมะตอยไม่ทำให้เกิดก๊าซพิษ (Toxic Gas) และไม่พบไมโครพลาสติกปนเปื้อนในอากาศ และเมื่อทดสอบในสภาพจำลองการขัดผิวเทียบเท่ากับการใช้ถนน 7 ปี ก็ไม่พบพลาสติกหลุดปนเปื้อนในแหล่งน้ำ
อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับแอสฟัลต์ที่ไม่ผสมพลาสติก พบว่า วัสดุแอสฟัลต์ผสมพลาสติกมีคุณสมบัติด้านวิศวกรรมดีกว่าทุกมิติ โดยเฉพาะความสามารถต้านทานการกัดเซาะของน้ำและความชื้นที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังสามารถนำวัสดุดังกล่าวที่ผ่านการใช้งานแล้วมารีไซเคิลเพื่อใช้งานใหม่ได้ประมาณ 10% ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า การสร้างถนน 1 กิโลเมตร จะใช้ขยะพลาสติกประมาณ 300-600 กิโลกรัม
ด้านนายวีระ ขวัญเลิศจิตต์ ฝ่ายเลขานุการโครงการ PPP Plastics กล่าวว่า ข้อดีของการใช้ขยะพลาสติกมาผสมกับแอสฟัลต์เพื่อสร้างถนน ปัจจุบันประเทศไทยสามารถรีไซเคิลขยะพลาสติกได้ประมาณ 18% ของขยะพลาสติกทั้งหมด ซึ่งจากสถิติพบว่า ขยะพลาสติกที่มีปริมาณมากที่สุด คือ ถุงพลาสติก ที่มีสัดส่วนประมาณ 50% ของขยะพลาสติกทั้งหมด รองลงมาคือ ฟิล์ม และขวดพลาสติก ขณะเดียวกัน ก็มีการนำถุงพลาสติกไปรีไซเคิลน้อย หรือประมาณ 17% เท่านั้น ทำให้เห็นภาพชัดว่า จะต้องบริหารจัดการขยะถุงพลาสติกมากขึ้น และการนำขยะถุงพลาสติกมาผสมกับแอสฟัลต์เพื่อทำถนนก็เป็นทางออกที่ดีเพื่อแก้ไขปัญหานี้
ทั้งนี้นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประเมินว่า หากสามารถใช้ขยะพลาสติกปริมาณ 50,000 ตันต่อปีมาทำถนนก็จะช่วยลดปริมาณขยะได้มหาศาล โดยปัจจุบัน ประเทศไทยรีไซเคิลขยะพลาสติกได้ปีละประมาณ 500,000 ตัน จากปริมาณขยะพลาสติกทั้งหมดกว่า 2 ล้านตัน ส่วนที่เหลือต้องฝังกลบและเผาเพื่อผลิตพลังงาน