22 มีนาคม วันแมวน้ำสากล : ปัญหาโลกร้อน อีกหนึ่งเหตุทำให้แมวน้ำไร้บ้าน

แมวน้ำ หรือ  Seal  ถือเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แมวน้ำนั้น ลักษณะโดยทั่วไป คือ กินสัตว์ทะเลเป็นอาหาร แมวน้ำ พบได้ในพื้นที่ต่างๆของโลก ส่วนใหญ่ในพื้นที่น้ำเย็น 

ในอดีตแมวน้ำ มักถูกล่าอย่างหนักเพื่อเนื้อ หนังและไขมัน ทำให้แมวน้ำมีจำนวนลดลง บางสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีเทศกาลล่าแมวน้ำอยู่ในแคนาดา และบางส่วนในประเทศทางตอนเหนือของโลก แต่ก็เผชิญการต่อต้านและความต้องการที่ลดลง นอกจากนี้ แมวน้ำยังเผชิญภัยคุกคามจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ Climete Change  การขาดแคลนอาหาร เครื่องมือประมง และปัญหากับชาวประมง 

สำหรับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เคยมีกรณีตัวอย่าง คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำแข็งในทะเลของประเทศแคนาดา อธิบายว่า ปริมาณน้ำแข็งในอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ที่แมวน้ำใช้อาศัยกำลังค่อยๆ ลดปริมาณลงปีต่อปี

จากที่เคยเห็นน้ำแข็งกว้าง 15 ลูกบาศก์ไมล์ ตอนนี้ลดเหลือเพียง 1-3 ลูกบาศก์ไมล์

และถึงจะพอมีเหลืออยู่บ้าง แต่คลื่นความร้อนที่กัดกินฤดูกาลก็ทำให้แผ่นน้ำแข็งที่เหลืออยู่มีสภาพเปราะบางเสี่ยงแตกพังได้ทุกเวลา

เมื่อไม่มีน้ำแข็งให้อยู่ แมวน้ำ บางตัวอาจรู้ได้โดยสัญชาตญาณ พวกมันรีบออกเดินทางไปยังที่ที่ปลอดภัย แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีความแน่นอนระหว่างทาง รวมถึงจุดหมายปลายทางที่รออยู่ก็อาจไม่ได้ดีเหมือนบ้านเก่า  และยิ่งไปกว่านั้น การสูญเสียแผ่นน้ำแข็งที่อยู่อาศัยของแมวน้ำ ทำให้ทัวร์ชมแมวน้ำบนเกาะแมกดาเลนได้รับผลกระทบตามไปด้วย

• แมวน้ำ สิงโตทะเล และวอลรัส มีความคล้ายคลึงกัน  แล้วทั้ง 3 สายพันธุ์ ต่างกันอย่างไร? 

แมวน้ำ สิงโตทะเล และวอลรัส หากมองด้วยตาเปล่า มีความคล้ายคลึงกันมาก โดยทั้งสามถูกจัดอยู่ในวงศ์ใหญ่สัตว์ตีนครีบด้วยกัน คือ วงศ์ Pinnipedia ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจว่า ทั้งสัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้มีบางอย่างที่คล้ายกัน 

โดยปัจจุบันมีสัตว์วงศ์ Pinnipedia ตีนครีบอยู่ราว 33 สปีชีส์ พวกเขาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล มีรูปร่างที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ มีหนวดยาวเพื่อใช้ในการจับการเคลื่อนไหวของสิ่งต่าง ๆ และเท้าที่มีลักษณะเหมือนครีบจำนวน 4 ครีบ ใช้สำหรับเดินหรือว่ายน้ำ พวกเขาออกลูกเป็นตัว เป็นสัตว์สังคมชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง อาหารโปรดของเจ้าพวกนี้คือหอย ปู กุ้ง และปลาทะเล

แต่ถึงแม้ว่าสัตว์ทั้งสามชนิดนี้จะมีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายกัน แต่ถ้าสังเกตดี ๆ สัตว์ทั้งสามจะมีลักษณะที่ต่างกันจนสามารถแยกได้อีก 3 วงศ์ย่อย ได้แก่

1.วงศ์ย่อย Phocidae (แมวน้ำแท้, Earless Seals หรือ True Seals)  แมวน้ำแท้นั้นจะไม่มีใบหู มีเพียงรูหูเล็ก ๆ ไว้สำหรับฟังเสียงเท่านั้น มีครีบหน้าสั้น แถมเวลาเคลื่อนที่บนบกก็เชื่องช้ากว่าสิงโตทะเล โดยใช้ตัวช่วยเคลื่อนที่ พบตามเกาะต่างๆที่มีโขดหิน ออกล่าปลาเป็นอาหาร 
2.Otariidae (แมวน้ำมีหูหรือสิงโตทะเล, Sea Lion, Eared Seals) สิงโตทะเล จะมีใบหู มีครีบหน้ายาว มีครีบหางที่แยกเป็นสองครีบชัดเจน โดยใช้ครีบในการช่วยเคลื่อนตัว ทำให้สามารถเคลื่อนที่บนบกได้คล่องแคล่วกว่าแมวน้ำแท้นั่นเอง
3.Odobenidae (วอลรัส) วอลรัส มีเขี้ยวหรืองายาวงอกออกมาจากริมฝีปากบนคล้ายกับงาของช้างทั้งเพศผู้และเพศมีย ใช้ในการหาอาหารและป้องกันตัว นอกจากนี้วอลรัสก็ไม่มีใบหูเช่นเดียวกันกับแมวน้ำอีกด้วย พบได้ในแถบขั้วโลกเหนือ

เนื่องในวันแมวน้ำโลก มาร่วมกันสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์แมวน้ำ ลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน และสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เพื่อให้พวกกเขาอยู่กับโลกไปตราบนาน 

ที่มา nationalgeographic seub