24 ก.พ. วันปลอดควันพิษจากไฟป่า : โลกร้อน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเร่งไฟป่าเผาใจ

ในช่วงเวลานี้ ฝุ่น PM2.5 กำลังกลับมาเป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคม และหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ ฝุ่นพุ่งสูงขึ้นก็คือไฟป่า จากทั้งในประเทศและในประเทศเพื่อนบ้าน โดย สถานการณ์ไฟป่าในประเทศไทยซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน เป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลพยายามแก้ไข 

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย และเพื่อบรรเทาผลกระทบทั้งต่อสุขภาพของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ โดยในฝั่งของผู้บริหารประเทศ ฝั่งรัฐได้ออกทั้งมาตรการเฝ้าระวัง การจัดระเบียบการเผา รวมทั้งมาตรการในรูปแบบต่าง ๆ ที่สร้างความมีส่วนร่วมของประชาชนเพราะปัญหานี้แก้โดยใครคนใดคนหนึ่งหรือภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่งไม่ได้

หนึ่งในผลกระทบจากไฟป่า คือ ปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศ รัฐบาลได้กำหนดการแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุ่นละอองเป็น “วาระแห่งชาติ” และมีแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” เพื่อควบคุมค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน และหากทุกคนเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ส่วนรวม มองเห็นโลกใบใหญ่เปรียบเสมือนบ้านของตัวเอง ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อส่วนรวม ก็จะสามารถรักษาสมบัติอันล้ำค่า รักษาทรัพยากรธรรมชาติ ไว้ให้ลูกหลานในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ปี 2021 พื้นที่ตอนเหนือของโลกทุบสถิติสูญเสียต้นไม้มากที่สุด

• ศตวรรษแห่งไฟ งานวิจัยชี้ไฟป่ารุนแรงขึ้นทั่วโลก เกิดขึ้น 1 ครั้งในรอบ 100 ปี

• ไฟป่าชิลี ลุกลามหนักเกือบ 9 หมื่นไร่ ก่อมลพิษทางอากาศมหาศาล

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ถือเป็น “วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชน ตระหนักถึงอันตรายของไฟป่า ดังนี้ 

1. เพื่อรณรงค์ให้ประชาชน และเกษตรกร งดการจุดไฟเผาป่า เพื่อลดควันไฟที่เกิดจากการเผาป่า
2. สร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักให้แก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา  หน่วยราชการ องค์กรเอกชน ถึงอันตรายและผลกระทบของควันที่เกิดจากไฟป่า
3. เพื่อป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ จากการจุดไฟเผาป่า

นอกจากนี้ หมอกควันที่เกิดจากไฟป่า  ซึ่งไม่ว่าจะเกิดที่ใดบนโลกก็ตาม  ก็จะก่อให้เกิดจากการสันดาปที่ไม่สมบูรณ์  ซึ่งจะทำให้เกิด ควันไฟ ฝุ่นละออง หมอก ขี้เถ้า และแก๊สพิษต่าง ๆ เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2), ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และ ก๊าซโอโซน (O3) เป็นต้น

โดยมลพิษทางอากาศนี้จะปนเปื้อนอยู่กับอนุภาคหมอกควัน ซึ่งแน่นอนว่าพื้นที่ที่อากาศแห้ง นิ่ง ไม่มีลมพัด จะเสี่ยงที่จะได้รับสารมลพิษมากกว่าพื้นทื่อื่นๆ เพราะฝุ่นละอองเหล่านี้ สามารถแขวนลอยในอากาศได้นานมากๆ ยิ่งมีขนาดเล็กยิ่งแขวนลอยได้นานเป็นปีๆเลยทีเดียว

• วิกฤตโลกร้อน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ เร่งไฟป่า

ทั้งนี้ สถานการณ์ที่สร้างปัญหาอีกประเด็นหนึ่ง ในการก่อให้เกิดไฟป่า ก็คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change เพราะสิ่งเหล่านี้ ได้ทำให้ฤดูร้อนหรือฤดูแล้งมีความยาวนานมากขึ้นถึง 30-50% หรือยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 6 สัปดาห์ ซึ่งหมายถึงโอกาสและความถี่ที่จะเกิดไฟป่าจะเพิ่มสูงขึ้นมาก