การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจทำให้โลกนี้เจอปัญหาเพิ่มเติมตามมาอีกมากมาย และอาจจะกระทบถึงผู้ที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์น้ำหอม เพราะต่อไปในอนาคต อาจไม่มี น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ของ Dior และ CHANEL อีกต่อไป เพราะการ ปลูกดอกไม้ยากขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change โดยเรื่องนี้ กำลังจะมีผลต่อไปในอนาคต โดย ภาวะโลกร้อนอาจทำให้น้ำหอมที่ทำมาจากดอกไม้ของ Chanel และ Dior หายไปเพราะเกิดภัยแล้งรุนแรง คลื่นความร้อน หรือไม่ก็ฝนตกหนักเกินไป ทำให้การปลูกดอกไม้ยากขึ้น รวมไปถึงเก็บเกี่ยววัตถุดิบให้ทำเป็นน้ำหอมธรรมชาติได้น้อยลง และต้องหันไปหาการสังเคราะห์แทน
เมือง Grasse ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองหลวงแห่งน้ำหอมของโลก มาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 17 เหตุผลของการอวยยศในเรื่องนี้ นั้นเป็นเพราะเมือง Grasse มี ลักษณะสภาพอากาศเฉพาะตัว ทำให้ดอกไม้ไม่ว่าจะเป็น กุหลาบ ซ่อนกลิ่น ลาเวนเดอร์ หรือดอกมะลิต่างบานสะพรั่ง และส่งกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ ความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ ยังทำให้ ผู้ผลิตในเมือง กราซ Grasse ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า เป็นผู้นําในอุตสาหกรรมนี้ อีกทั้งในปี 2018 ยูเนสโกก็ยังจัดให้กราซเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งความแห้งแล้ง คลื่นความร้อน และปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าปกติ ทำให้การปลูกดอกไม้ยากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว เมืองกราซต้องเผชิญกับภัยแล้งที่รุนแรง ทำให้ผู้ผลิตหลายรายต้องเสียดอกไม้ไปเกือบครึ่งจากทั้งหมด เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงเกินไป ส่งผลต่อคุณภาพของดอกกุหลาบและยังทำให้ดอกไม้บางชนิด เช่นทูเบอร์โรสไม่สามารถเติบโตได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดย ในฤดูร้อนปี 2021 พวกเขาเก็บเกี่ยวดอกไม้ได้น้อยลงถึง 40% โดย คาโรเล่ เบียงคาลาน่า (Carole Biancalana) ผู้ผลิตดอกไม้น้ำหอมรุ่นที่ 4 แสดงความคิดเห็นว่า ตอนนี้ฤดูหนาวอุ่นขึ้น แต่ฤดูใบไม้ผลิกลับมาอากาศเย็น ทำให้ดอกไม้ไม่ได้เจอสภาพอากาศที่พวกมันควรจะเจอ
ขณะที่ เบอนัวต์ เวอร์ดิเย่ร์ (Benoit Verdier) ผู้ร่วมก่อตั้ง Ex Nihilo Paris หนึ่งในแบรนด์น้ำหอมกล่าวเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอาจจะไม่ส่งผลต่อกลิ่นของน้ำหอม แต่มันจะส่งผลต่อราคาแน่นอน เนื่องจากการขาดวัตถุดิบจะทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น แม้ว่าตอนนี้ผู้ผลิตอาจยังไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่ในอนาคตสถานการณ์อาจบังคับให้พวกเขาทำ และมันจะส่งผลต่อไปให้บริษัทอย่างแบรนด์เนม อาทิ น้ำหอม Dior, น้ำหอม Chanel และอื่น ๆ หันไปหาน้ำหอมสังเคราะห์ในห้องทดลองแทน
• การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีผลต่อ การทำน้ำหอม ขนาดไหน
ย้อนเข็มนาฬิกากลับไปในปี 2016 มีการศึกษาจาก Hebrew University of Jerusalem ว่า อุณภูมิที่สูงขึ้นทำให้กลิ่นหอมของดอกไม้ลดลง ด้วย ดังนั้นแปลว่าทุกเรื่องมีความเชื่อมโยงกัน ส่วน University of Copenhagen จากเดนมาร์ก พบว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือ Climate Change อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อกลิ่นอโรมาของพืช พบว่าองค์ประกอบทางพันธุกรรมของดอกไม้ที่ผลิตสารประกอบอะโรมาติกนั้นจะผลิตกลิ่นหอมลดลง เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
สิ่งเหล่านี้ อาจกลายมาเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ผลิตน้ำหอมได้ โดยเฉพาะแบรนด์ระดับโลกอย่าง น้ำหอม CHANEL หรือ น้ำหอม Dior ที่คุณภาพและมาตรฐานของน้ำหอมต้องคงที่ เช่น ผู้ที่ใช้กลิ่น CHANEL No. 5 ในวันนี้ต้องได้กลิ่นเหมือนตอนที่ Marilyn Monroe เคยใช้ ซึ่งผู้ผลิตกลิ่นรายใหญ่ของโลกอย่าง Givaudan ก็เริ่มกังวลถึงผลผลิต patchouli (พืชในตระกูลมินต์) เนื่องจาก 80% ของพืชนั้นมาจากอินโดนีเซีย ที่เผชิญกับความแห้งแล้วรุนแรงทำให้ผลผลิตของพืชนั้นลดลง ดังนั้นการที่สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่ปลูกพืชพรรณเหล่านี้ต้องปรับตัวตามให้ทัน
ที่มา theguardian bloomberg